ไม่พบผลการค้นหา
"วิษณุ" ไม่ตอบ ต้องสอบเพิ่มหรือไม่กรณี "ส.ส. มีเงินเพียง 5,000 บาท จนผิดปกติ" ยืนยันยืมรถเพื่อน ไม่ต้องเเจ้งบัญชีทรัพย์สินเเละหนี้สิน เพราะระเบียบ ป.ป.ช.ระบุชัดเจน เผยสภายังไม่ประสานวันเปิดอภิปรายทั่วไปมายังรัฐบาล

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงการเเจ้งบัญชีทรัพย์สินเเละหนี้สินของ ส.ส. กรณีนายพิษณุ พลธี ส.ส.ปทุมธานี พรรคภูมิใจไทย ที่แสดงบัญชีทรัพย์สินมีเงินฝากเพียง 5,000 บาท โดยไม่มีทรัพย์สิน เเละได้ยืมรถเพื่อนใช้โดยไม่เเจ้งบัญชี เรื่องนี้ สามารถทำได้ เพราะระเบียบของ ป.ป.ช.ระบุไว้ชัดเจนว่าการขอยืมใช้คงรูป เเละการใช้สิ้นเปลือง เเตกต่างกับการยืมอะไรก็ต้องคืนเเบบนั้น

พร้อมยกตัวอย่างการใช้สิ้นเปลือง เช่น การยืมเงิน ที่จะต้องคืน จึงต้องเเจ้งบัญชีทรัพย์สินเเละหนี้สินกับ ป.ป.ช. ส่วนการมีเงินเพียง 5,000 บาท ผิดปกติหรือไม่ ไม่ทราบ เพราะไม่ใช่ตัวเอง

ไม่ตอบ "ไพบูลย์" ยื่นยุบพรรคตัวเอง ทำได้หรือไม่ เป็นเรื่อง กกต.ชี้ขาด 

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ปฏิเสธเเสดงความคิดเห็นกรณี นายไพบูลย์ นิติตะวัน ยื่นยุบพรรค ประชาชนปฏิรูป ที่ตัวเองเป็นหัวหน้าพรรค โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ กกต.จะพิจารณา ขอให้ไปถาม กกต.เอง ซึ่งเรื่องนี้มีหลักเกณฑ์วิธีหลักวิธีการที่จะเเก้ปัญหาในรัฐธรรมนูญ เเต่ไม่ขอตอบ ให้กกต.ตอบเองจะดีกว่า ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าไม่สามารถทำได้เพราะ นายไพบูลย์ ได้เป็น ส.ส.คิดสัดส่วนคะเเนนทั้งพรรค ไม่ใช่คะเเนนของนายไพบูลย์คนเดียว อยู่ที่ กกต.จะเป็นคนชี้ หน่วยงานอื่นไม่เกี่ยว

ถ้าเห็นว่า กตต.พิจารณาไม่ถูก ก็ให้ไปยื่นเรื่อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เหมือนสูตรการนับคะเเนน ที่เริ่มจาก กกต.ก่อน เเล้วให้ศาล รธน.ตัดสิน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเเต่ต้องใช้เวลา ไม่สามารถตอบได้ทันที ส่วนจะเป็นโมเดลให้พรรคอื่นยื่นยุบพรรคตัวเองหรือไม่ ไม่ทราบ เเต่คิดว่าคงไม่มีใครคิดทำ  

ทั้งนี้ ระบุ ในอดีตเคยมีการยื่นยุบพรรคตัวเอง เเต่ รธน.ฉบับก่อน ไม่เหมือนฉบับนี้ เพราะมีการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เเต่ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้บัตรใบเดียว เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องพิจารณา และไม่ขอตอบประเด็นนี้ จะเป็นเหตุผลให้เเก้ รัฐธรรมนูญหรือไม่

เผย สภายังไม่ประสานวันเปิดอภิปรายทั่วไปมายังรัฐบาล

นายวิษณุ เปิดเผยว่า สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยังไม่ได้ประสานขอกำหนดวันเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติมาที่ส่วนตัว คงจะเป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาลที่จะต้องหารือกัน ซึ่งในส่วนของรัฐบาลไม่มีปัญหาหากจะจัดในเดือนสิงหาคมนี้ แต่ทางสภาผู้แทนราษฏรติดภารกิจร่วมประชุมสมัชชาสภาอาเซียน หรือ AIPA จึงจำเป็นต้องเลื่อนการเปิดอภิปรายทั่วไป ไปช่วงเดือนกันยายนแต่ต้องก่อน 18 ก.ย. ที่จะปิดสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยรัฐบาลอยากทราบล่วงหน้าเพื่อจัดตารางงานไม่ให้ตรงกับภารกิจอื่น ซึ่งหากพิจารณาแล้วจะเห็นว่าขณะนี้เหลือวันที่สามารถเปิดอภิปรายได้แค่เพียงวันศุกร์วันเดียว 

ส่วนนายกรัฐมนตรีที่จะต้องเดินทางไปตอบด้วยตนเองหรือไม่นั้น นายวิษณุไม่ขอตอบเพราะไม่ทราบว่าสมาชิกได้ถามใคร ครม. หรือ นายกรัฐมนตรี แต่เชื่อว่าอีกไม่กี่วันจะมีความชัดเจน

ทั้งนี้เมื่อสภาประสานการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปมาที่รัฐบาลจำเป็นต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพราะตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญเป็นการถามคณะรัฐมนตรีไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากมาตรา 151 ที่เป็นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล

ส่วนเรื่องการถวายสัตย์ความเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์จะต้องมีการประชุมลับหรือไม่ นายวิษณุระบุว่าไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องที่วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้านจะต้องพูดคุยกัน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :