ไม่พบผลการค้นหา
"ธนาธร" ไม่กังวลปมหุ้นสื่อ ยัน ภารกิจหลักคือสกัดการสืบทอดอำนาจ คสช.พร้อมคุยทุกพรรค แต่ยังอุบรายละเอียด ด้าน "ปิยบุตร" แนะสื่อฯ และนักร้องเรียนมีความรับผิดชอบ เอาเวลาไปตรวจสอบผู้มีอำนาจและ ส.ว.แต่งตั้งดีกว่า

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค, นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคและ ส.ส.บางส่วนของพรรค เข้ารับหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ซึ่งทั้ง 3 คนกำหนดจะไปการรายงานตัวเข้ารับตำแหน่งที่อาคารรัฐสภา ในวันจันทร์ 13 พ.ค. นี้

นายธนาธร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงสถานการณ์สู่อนาคตการเมืองไทย โดยยืนยันว่าพรรคที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. อย่างชัดเจนมีเพียง 3 พรรค เสียงในสภาไม่ถึง 250 เสียง แม้รวมกับ สว.ที่ คสช.แต่งตั้งมาก็ยังไม่เกินกึ่งหนึ่งของทั้ง 2 สภา โดยพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันจุดยืนหลักคือ สกัดการสืบทอดอำนาจของ คสช.และสนับสนุนพรรคที่ได้อันดับ 1 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและพร้อมพูดคุยกับพรรคการเมืองที่ได้ประกาศในการหาเสียงว่าไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.ให้สืบทอดอำนาจต่อไป แต่ปฏิเสธที่จะพูดถึงรายละเอียด เพราะต้องให้เกียรติคู่เจรจา พร้อมกันนี้เรียกร้องให้สื่อมวลชนและสังคมตรวจสอบพรรคการเมืองที่ประกาศประชาชนถึงจุดยืนทางการเมืองที่จะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. ให้ทำตามที่พูดไว้ เพื่อให้เสียงของประชาชนได้รับการเคารพและเจตนารมณ์ของประชาชนที่เลือกผู้แทนมาไม่ถูกบิดเบือนไป 

ส่วนกรณีส่วนกรณีผู้ถือหุ้นสื่อที่มีผู้ร้องเพิ่มเติมนั้น นายธนาธร ไม่มีความกังวล เพราะได้ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว พร้อมกันนี้มองการทำงานของสื่อมวลชนว่า การทำข่าวเจาะลึกกับการสร้างวาทกรรม เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นด้วยความเท็จ ที่ทำให้สังคมเข้าใจผิดเป็นคนละเรื่องกัน วันนี้ควรจะนำเสนอข่าวตามข้อเท็จจริงอย่างมืออาชีพ 

ด้านนายปิยบุตร กล่าวต่อว่า ความศักดิ์สิทธิ์ของการเป็น ส.ส. เกิดจาก การที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชน ส่วนการรับรองโดย กกต. เป็นเพียงพิธีกรรมที่ทำให้ครบถ้วนตามกฎหมายเท่านั้น ดังนั้นการปกป้องเจตนารมณ์ของประชาชนจึงเป็นการทำตามที่สัญญากับประชาชนไว้ โดยเฉพาะจุดยืนทางการเมือง ในการ สกัดกั้นการสืบทอดอำนาจของ คสช.และปิดสวิตช์ ส.ว.ไม่ให้ เข้ามาใช้อำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นภารกิจสำคัญ ของพรรคการเมือง 

ซึ่งนายปิยบุตร ยังเรียกร้องให้นักร้องเรียนที่ชอบพูดคุยเรื่องราวต่างๆรวมถึงสื่อมวลชนต้องรับผิดชอบกับการตรวจสอบหรือร้องเรียนต่างๆ ด้วย และเห็นว่าสื่อมวลชนควรเอาเวลาไปตรวจสอบโครงการต่างๆ ของรัฐที่ไม่ชอบมาพากล การใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของหัวหน้าคสชรวมถึงตรวจสอบ ส.ว.แต่ละคนว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร จะเป็นประโยชน์มากกว่า ไม่ควรเสียเวลากับการมุ่งร้องเรียนโดยพยายามเอาผิดพรรคอนาคตใหม่อย่างเอาเป็นเอาตาย ที่สำคัญ ทางพรรคพร้อมชี้แจงรายละเอียดทุกอย่าง โดยไม่จำเป็นต้องไปสืบค้นให้เสียเวลาหากสื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพื่อตรวจสอบ


'ศรีสุวรรณ' ส่งหลักฐานเพิ่ม หลังคุ้ยเจอข้อสงสัย 'ธนาธร' ปมมีหุ้นสื่อเพิ่ม 13 บริษัท

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถือหุ้นอีก 13 บริษัทของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ สส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรค ยื่นต่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ให้ตรวจสอบและวินิจฉัย ว่า นายธนาธร อาจจะเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ อันอาจเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ตามมาตรา 98(3) แห่งรัฐธรรมนูญ ประกอบ มาตรา 42(3) ของ พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2561 และข้อ 90 ของระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 หรือไม่ 

นายศรีสุวรรณ ยืนยันว่า สมาคมฯตรวจพบว่ามีชื่อนายธนาธร ยัง ถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ ที่มีหนึ่งในวัตถุประสงค์ตามหนังสือบริคณฑ์สนธิว่า ประกอบกิจการเกี่ยวกับหนังสือพิมพ์ โรงพิมพ์ จัดพิมพ์และเผยแพร่ ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นสื่อมวลชนอีกไม่ต่ำกว่า 13 บริษัท มายื่นเรื่องเพิ่มเติมวันนี้ หาก กกต.วินิจฉัยว่าอาจเข้าข่ายตามข้อสงสัยในคำร้องของสมาคมฯจริง ก็สามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิได้ รวมทั้งสามารถดำเนินการลงโทษตาม มาตรา 151 แห่ง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ต่อไปได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง