น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ศ. 2563 / นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และประธานวิปฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ถึงแนวทางการทำงานขับเคลื่อนในการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2

โดย น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุว่า ถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ คณะกรรมการประชุมแล้ว เห็นว่า มีข้อมูล มีความชัดเจนในการบริหารแผ่นดินที่ผิดพลาด และไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล ที่สำคัญ กมธ. ที่มี 35 คณะ พบร่องรอยบางประการ พบมีการทุจริต ทางพรรคเพื่อไทย จึงมีความเห็นว่า ฉะนั้นพรรคเพื่อไทยก็มีความพร้อมในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ขอหารือร่วม 7 พรรคฝ่ายค้านด้วยว่าวันไหน ส่วนจะยื่นอภิปรายบุคคลไหนหรือคณะไหน ก็ต้องหารือกับสมาชิกและพรรคร่วมอีกครั้งเช่นกัน ส่วนตัวยังระบุอีกว่า รัฐมนตรีหลายคนเข้าข่ายที่จะถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และอาจจะมีบางส่วนที่ประชาชนอาจคาดไม่ถึง แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้รอฟังความคิดเห็นกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อน 

ด้าน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ พ.ศ. 2563 เปิดเผยว่า ในส่วนของ กมธ.งบประมาณ ได้ผ่านการพิจารณางบประมาณไปแล้ว 2 กระทรวงครึ่ง โดยจากการดูภาพร่วมแล้ว มองว่างบประมาณไม่ได้ถูกจัดสรรไปเพื่อพัฒนาและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยของการทุจริต และคาดว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน อาจจะมีการเสนอปรับงบประมาณเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะงบประมาณที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน และส่วนที่อาจเกี่ยวข้องกับร่องรอยของการทุจริต 

เมื่อถามว่า หากมีการปรับลดงบประมาณและแปรญัตติกลับเข้ามาจะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญตามมาตรา 144 หรือไม่ นายวรวัจน์ เชื่อว่าไม่มีผล ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐมนตรี ทั้งนี้ได้ระมัดระวังอยู่แล้ว ย้ำว่าการปรับลดจะเป็นไปตามระเบียบและมีกฏหมายรองรับอยู่แล้ว

ด้าน นพ.ชลน่าน ระบุว่าส่วนงบประมาณของท้องถิ่น ถือว่าเป็นหน่วยรับงบประมาณ หมายความว่าจะต้องมีการชี้แจงงบประมาณของและส่วนอย่างชัดเจน ส่วนของเทศบาลและ อบต.นั้นจะอยู่ภายใต้ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ก็ต้องไปว่ากันตามกฏหมายอีกที ทั้งนี้จะมีอนุกรรมที่คอยดูรายละเอียดปลีกย่อยอีกครั้ง

เปรย พท.ใจกว้าง ถ้า ส.ส.เห็นชอบ 'อภิสิทธิ์' นั่งประธาน กมธ.ศึกษา รธน.

ขณะที่ นายสุทิน กล่าวถึงการตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ตั้ง คิดว่าพรรคได้สัดส่วนเท่าไหร่คงเป็นไปตามโครงสร้างเดิม และคิดว่ายังมีเวลาให้คิดอีก ซึ่งโครงสร้างการจัดตั้ง กมธ.เป็นอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เสนอจำนวน แบ่งเป็นคณะรัฐมนตรี และส่วนที่เหลือจัดสรรตามจำนวนสมาชิก ส.ส.ของพรรคการเมือง เมื่อเทียบฝ่ายค้านกับรัฐบาลแล้วฝ่ายค้านจะมีจำนวนมากกว่า โดยทั่วไปสามารถตั้งบุคคลภายนอกเป็นกรรมมาธิการได้ แต่ที่นิยมปฏิบัติคือให้ ส.ส.เข้านั่งเป็นประธาน

ส่วนกรณีที่มีการสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานกรรมาธิการชุดดังกล่าวนั้น พรรคเพื่อไทยใจกว้าง ยอมเปิดใจกว้างและเสียสละ หากสมาชิกเห็นว่าเหมาะสมก็ทำได้ 

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยขอวิงวอนให้รัฐบาลใจกว้างด้วยเช่นกันเพื่อให้ได้มาซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย กมธ.ชุดนี้ ตั้งขึ้นเพื่อศึกษาหาวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการเดินสายทำความเข้าใจอาจมีการเสนอในที่ประชุมในกมธ.ชุดนี้ เพราะเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไข 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• 'สุดารัตน์' เผย 'อภิสิทธิ์' เป็น กมธ.ศึกษาแก้ รธน.ได้ ยังไม่ชัดสัดส่วนเพื่อไทยร่วม
• 'ภูมิธรรม' ถอดบทเรียนอดีต แนะดึงคนกลางร่วมวง กมธ.ศึกษาแก้ รธน.
• 'เทพไท' ชี้ทุกฝ่ายหนุน 'อภิสิทธิ์' ปธ.กมธ.ศึกษา รธน. - 'ชลน่าน' วอน 'ส.ว. - ประยุทธ์' หนุน
• ปลดแอกกลไกรัฐประหาร 'ปิยบุตร - อนาคตใหม่' ยุทธวิธีขอมติมหาชนนอกสภาเข้ารัฐสภา