ไม่พบผลการค้นหา
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เผยไตรมาส 2 /2561 การจ้างงานเพิ่มขึ้นจากภาคเกษตรขยายตัวดี พร้อมจับตาหนี้ครัวเรือน หลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่น่าห่วง ขณะที่มูลค่าความเสียหายจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 63

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานภาวะสังคมไตรมาส 2 ปี 2561 พบว่ามีความเคลื่อนไหวด้านสังคมที่สำคัญ ได้แก่ การจ้างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 เป็นการจ้างงานภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและมีการขยายพื้นที่เพาะปลูก

ส่วนการจ้างงานนอกภาคเกษตรทรงตัวเท่ากับไตรมาส 2 ปี 2560 แต่มีสัญญาณการจ้างงานที่ดีขึ้นในหลายสาขา ได้แก่ สาขาอุตสาหกรรมการผลิต เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ปี 2561 และเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 11 ไตรมาส ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการส่งออกสินค้าและการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวดี, สาขาโรงแรมและภัตตาคาร มีการจ้างงาน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 ตามการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และสาขาการก่อสร้าง แม้การจ้างงานลดลง แต่เป็นการลดลงในอัตราที่ต่ำกว่า 5 ไตรมาสที่ผ่านมา อัตราการว่างงาน เท่ากับร้อยละ 1.1 เทียบกับร้อยละ 1.2 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน       

ทั้งนี้ ประเด็นด้านแรงงานที่ต้องเฝ้าระวังในระยะถัดไป คือ ความเสี่ยงจากสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อรายได้เกษตรกร จากภาวะฝนตกหนักและเกิดอุทกภัยในบางพื้นที่ช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. 2561 และภาวะน้ำหลากและอุทกภัยที่มักเกิดในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.ของทุกปี ซึ่งต้องเฝ้าระวังและเตรียมมาตรการบรรเทาผลกระทบในช่วงครึ่งหลังของปี 2561

ด้านหนี้สินครัวเรือนในไตรมาส 2 ปี 2561 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พิจารณาจากยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ที่ขยายตัวร้อยละ 8.0 ด้านความสามารถในการชำระหนี้เมื่อพิจารณาสัดส่วนหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมลดลงจากร้อยละ 2.78 ในไตรมาส 1 ปี 2561 เป็นร้อยละ 2.72 ในไตรมาสนี้ โดยลดลงในสินเชื่อเกือบทุกประเภท ยกเว้นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ภาครัฐมีมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ โดยมาตรการรเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ในระบบ ได้แก่ การออกมาตรการควบคุมบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล การปรับโครงสร้างหนี้ผ่านโครงการคลินิกแก้หนี้ การจัดอบรมความรู้ทางการเงินและบริหารจัดการให้กับผู้เข้าร่วมโครงการฯ มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ได้แก่ การออกพระราชบัญญัติห้ามเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 เพิ่มโทษกับเจ้าหนี้นอกระบบ การกวดขันจับกุมผู้ปล่อยกู้ การเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ

นอกจากนั้น ยังดำเนินการให้ความรู้ทางการเงิน และแนะแนวการประกอบอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้แก่บุคคลทั่วไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งเสริมการสร้างวินัยการออมตั้งแต่วัยเด็ก และการดำเนินเนินชีวิตโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่ช่วยแก้ไขปัญาการก่อหนี้ที่เกิดจากความไม่ระมัดระวังและไม่จำเป็น

"ภาวะสังคมไตรมาส 2/2561 พบว่าการจ้างงาน รายได้และผลิตภาพแรงงานเพิ่มขึ้น แต่มีประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ หนี้สินครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่ยังสามารถจัดการได้" เลขาธิการ สศช.ระบุ

อุบัติเหตุบนถนนเพิ่มทั้งจำนวนเหตุการณ์และมูลค่าความเสียหาย สาเหตุหลักขับรถเร็ว

ขณะที่ สถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุจราจรทางบกในไตรมาส 2 ปี 2561 เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.3 จากไตรมาสเดียวกันของปี 2560 มูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นร้อยละ 63 แต่จำนวนผู้เสียชีวิตลดลงร้อยละ 21 สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดเป็นการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด รถที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดยังคงเป็นรถจักรยานยนต์ร้อยละ 38.6 ของประเภทรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด ภาครัฐให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุในประเด็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง การรณรงค์การสร้างวินัยจราจรแก่ผู้ขับขี่ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและคุ้มครองความปลอดภัยทางถนนที่นำไปสู่การลดอุบัติเหตุ อาทิ การปรับปรุงกฏหมายให้มีประสิทธิภาพและทันสมัย ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. .... และการบูรณาการ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ให้เป็นกฎหมายเดียวกัน


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :