ไม่พบผลการค้นหา
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธข่าวลือ "คุณหญิงสุดารัตน์" ทิ้งพรรค ยืนยันยังปฏิบัติหน้าที่ตามที่พรรคได้มอบหมาย ขอสื่ออย่าสร้างประเด็นใหม่ที่สร้างความแตกแยกภายในพรรค

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวทิ้งพรรค และการขอลดบทบาทของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า เท่าที่ดูยังไม่มีอะไร เมื่อวานนี้ (3เม.ย.) คุณหญิงสุดารัตน์ก็เข้ามาทำงานตามปกติ และตอนนี้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับผู้แทนและผู้สมัครพรรคไปดูปัญหาหมอกควันที่ยังวิกฤตในพื้นที่ภาคเหนือ ยังเห็นปฎิบัติตามปกติ 

โดยขอเรียนว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 คนยังทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย เพียงแต่วันนี้ยังไม่ใช่เวลาเลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวคิดว่ายังไม่ควรมีการสร้างประเด็นใหม่เพื่อให้เกิดความขัดแย้งภายใน ยืนยันว่าตรงนี้ไม่ได้เป็นปัญหา แต่ประเด็นอยู่ที่ กกต. เพราะคะแนนดิบก็ยังไม่ทราบ และจริงๆควรจะมีวิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ชัดเจนแล้ว

และวันนี้จะเข้าสู่ช่วงเทศกาล และพระราชพิธีสำคัญ ควรจะเป็นการพูดเรื่องการปรองดอง จึงอยากขอร้องผู้มีอำนวจโดยตรง อย่าสร้างวาทกรรมสร้างความแตกแยก หรือ พูดในสิ่งที่ไม่สบายใจกัน ขอให้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ประคับประคองประเทศเดินไปในทิศทางที่มีประโยชน์

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงข่าวลือว่าที่ ส.ส. ไม่ลงสัตยาบันนั้น ว่าขณะนี้มีกระบวนการที่จะสร้างความแตกแยกในแต่ละพรรคการเมือง คิดว่าไม่เป็นประโยชน์ ขออย่าทำเลย ซึ่งเรื่องสัตยาบันที่ 7 พรรคการเมืองพูดคุยกันและได้ร่วมลงสัตยาบัน ไม่ได้มีอะไรมาก และไม่ได้ไปบังคับข่มขู่ เป็นเพียงการยืนยันว่า 7 พรรคการเมือง จะรักษาระบอบประชาธิปไตยให้เดินไปข้างหน้า และคัดค้านไม่ให้สืบทอดอำนาจ และทุกพรรคการเมืองระบุชัดเจนว่าจะนำเรื่องนี้ไปหารือภายในของแต่ละพรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ได้มีการดำเนินการและพูดคุยกัน 

ส่วนจำนวนผู้แทนราษฎรที่เข้ามาในวันนั้นได้ลงชื่อทั้งหมด มีเพียงแค่บางส่วนที่กลับก่อนเนื่องจากเข้าใจว่าไม่มีการประชุม และติดภารกิจ คิดว่าอย่าพยายามสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนเลย และคิดว่าสื่อต้องรักษาจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด ถ้าบ้านเมือง องค์กรต่างๆ ไม่ยึดหลักการ และหลักจรรยาบรรณที่ควรจะเป็นบ้านเมืองจะเกิดปัญหา จึงขออย่าซ้ำเติมประเทศด้วยวิธีการแบบนี้เพราะไม่เป็นผลดี เรื่องแบบนี้ควรที่จะเอารายบุคคลมาพูด แทนที่จะบอกว่าพรรคนั้นแนวโน้มเป็นอย่างนั้นหรืออย่างนี้ ควรให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย