ไม่พบผลการค้นหา
งาน 17 ปีพฤษภา 35 เงียบเหงา "พิภพ ธงไชย" ชี้ เป็นเพราะผู้มีอำนาจและนักการเมืองไม่ให้ความสำคัญ ถาม! คนเมืองหลวงเคยออกมาต่อสู้ร่วมกันอย่างล้นหลาม วันนี้หายไปไหน

คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และองค์กรภาคี จัดงานรำลึก “27 ปี พฤษภาประชาธรรม” ที่สวนสันติพร อนุสรณ์พฤษภาประชาธรรม ถนนราชดำเนิน โดยผู้แทนองค์กรต่างๆร่วมสดุดีวีรชนตั้งแต่เช้า โดยบุคคลสำคัญที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ ทั้งนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 53, นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ทักทายและสนทนากันด้วยความเป็นกันเอง แต่บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเงียบเหงา ไม่มีพวงหรีดจากหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ มีผู้ร่วมงานไม่ถึง 100 คน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆมา 


vlcsnap-2019-05-17-13h33m55s235.jpg

นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนภาคส่วนต่างๆที่ร่วมงานปีนี้ ที่สำคัญคัญ คือ 1. นายสุจินต์ เพชรเนียน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำด้านสังคม 2. พันเอกวิเชียร ไทยประยูร รองผู้อำนวยสำนักกิจการพลเรือน กองทัพบก3. พันตำรวจเอกสาติกรณ์ ศรชัย ผู้กำกับสน.ชนะสงคราม 4.นายสาวิทย์ แก้วหวาน แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้านแรงงาน

ส่วนผู้แทนพรรคการเมืองประกอบด้วย 1.นายเชาวลิต วิชัยสุทธ์ จากพรรคเพื่อไทย 2.นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ และนางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท จากพรรคประชาธิปัตย์ 3.นายสมศักดิ์ มานพ รักษาการรอง หัวหน้าพรรคสังคมประชาธิปไตย


vlcsnap-2019-05-17-13h35m44s56.jpg
  • พิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

นายพิภพ กล่าวเปิดงานในฐานะประธานจัดงานปีนี้ ระบุว่า โชคดีที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษออกจากเรือนจำมาทันงานรำลึก 17 ปีเหตุการณ์พฤษภา 35 และแสดงความไม่พอใจต่อสภาพของสวนสันติพรและอนุสาวรีย์วีรชนที่ไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยเห็นว่า เป็นเพราะผู้มีอำนาจรัฐ และนักการเมืองไม่เห็นความสำคัญของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประชาชน สภาพของอนุสรณ์สถานและบรรยากาศการจัดงานก็จะ เป็นอย่างที่เห็น ต่างจากประเทศเกาหลีใต้ที่รัฐบาล และนักการเมืองให้ความสำคัญการจัดงานรำลึกคนจึงมาร่วมมาก แต่สำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะคนกรุงเทพมหานครที่เคยร่วมมาต่อสู้เมื่อ 17 ปีก่อนอย่างล้นหลาม ก็ไม่รู้ว่าหายไปไหน

นายพิภพ เห็นว่า ประวัติศาสตร์การต่อสู้กว่า 20 ปีที่ผ่านมาอาจจะได้เพียงเท่านี้จริงๆ ซึ่งอาจเป็นวิธีการเรียนรู้ประชาธิปไตยแบบไทยๆ และหวังว่าอีก 2-3 ปีจะได้เห็นอนุสรณ์สถานและสวนสันติพรเต็มรูปแบบ 


vlcsnap-2019-05-17-13h39m29s221.jpg

จากนั้นคณะผู้จัดงาน ผู้แทนพรรคการเมือง ผู้แทนหน่วยงานรัฐและกองทัพบก และองค์กรภาคประชาชน กล่าวถวายพระพรในหลวงรัชกาลที่ 10 กับศักราชใหม่ประเทศไทย ก่อนมีพิธีกรรมทางศาสนาพุทธและถวายภัตตาหารเพล พระสงค์จำนวน 10 รูป โดยมีการบรรเลงดนตรีไทยเพลงพฤษภาประชาธรรม จากสำนักวัฒนธรรม กทม.ประกอบเป็นระยะตลอดทั้งงาน

นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายจนถึงเวลา 16.00 น. มีการเสวนา การเมืองใหม่กับการสืบสานเจตนารมณ์พฤษภาประชาธรรม โดยผู้แทนพรรคการเมืองและภาคประชาชน ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน เป็นส่วนหนึ่งของงานด้วย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :