ไม่พบผลการค้นหา
เลขาฯ ก้าวหน้า แนะแก้รัฐธรรมนูญบางมาตรารื้อ 'ระบอบประยุทธ์' เปิดทาง ส.ส.ร.สร้างกติกาใหม่ที่เป็นธรรม เชื่อ 14 ต.ค. ม็อบชุมนุมอย่างมีวุฒิภาวะ ขอรัฐเลิกกลัวการถกเถียง

ที่อาคารไทยซัมมิท ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 โดยระบุว่า จากทิศทางเป็นไปได้ที่คงมีการตกลงกันเรียบร้อยแล้ว โดยสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อาจลงมติผ่านวาระ 1 ในญัตติที่ให้มีการเปิดทางตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมา และร่างนี้ก็น่าจะผ่าน แต่ในเรื่องอื่น ญัตติอื่น นั้นไม่แน่ใจ

ปิยบุตร เห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้มี ส.ส.ร. แต่เพียงอย่างเดียวน่าจะไม่เพียงพอ เพราะกว่าจะได้ ส.ส.ร. และกว่าจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับเสร็จ น่าจะใช้เวลาหลายปี และรัฐบาลชุดนี้อาจจะอยู่จนครบเทอม นั่นเท่ากับว่าเราจะอยู่กับ 'ระบอบประยุทธ์' ที่สร้างขึ้นมาจากรัฐธรรมนูญ 2560 ต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้นจึงเห็นว่าสิ่งสำคัญนอกจากทำให้มี ส.ส.ร. แล้ว จำเป็นต้องแก้รัฐธรรมนูญบางมาตราในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วย เพื่อรื้อระบอบประยุทธ์ออก

ปิยบุตร ระบุว่า ระบอบประยุทธ์ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ค้ำยันด้วย 1. ส.ว. 250 คน 2. องค์กรอิสระต่างๆ และ 3. แผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศต่างๆ ดังนั้น ต้องเอาเรื่องนี้ออกไป ต้องเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ เพื่อรื้อระบอบประยุทธ์ 

"ผมเชื่อว่ารัฐธรรมนูญที่ดีที่เรากำลังใฝ่ฝันซึ่งกำลังจะร่างกันใหม่ทั้งฉบับนั้น ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ภายใต้ระบอบประยุทธ์ รัฐธรรมนูญที่ดีไม่มีทางเกิดขึ้นได้ภายใต้การที่คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงครองอำนาจอยู่ ซึ่งเราก็เห็นแล้วว่ารัฐธรรมนูญ 2560 เกิดมาจากกลไกพิการอย่างไรบ้าง ถ้าหากปล่อยให้ระบอบประยุทธ์ยังคงอยู่ต่อไป เราอาจจะได้รัฐธรรมนูญที่คงปรับเพียงนิดเดียว กลายเป็นรัฐธรรมนูญ 2560 ที่แต่งหน้าทาปากเข้าไปเท่านั้น ดูดีกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ท้ายที่สุดโครงสร้างอำนาจยังเป็นอย่างเดิม ไม่ได้ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แน่นอน"

ปิยบุตร กล่าวด้วยว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราอื่นๆ อย่างน้อยๆ คือการตัดอำนาจ ส.ว.ในการร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีก่อน ซึ่งตนเห็นไกลไปกว่านั้น ก็คือควรยกเลิกไปเลย สำหรับ ส.ว.250 คน เพราะถ้าทำแต่เพียงมี ส.ส.ร. ท้ายที่สุดจะเข้าข่ายเป็นเพียงการซื้อเวลาเท่านั้น


เชื่อชุมนุม 14 ต.ค. มีวุฒิภาวะ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการชุมนุมของนิสิต นักศึกษาและประชาชนที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 ต.ค.  

ปิยบุตร กล่าวว่า ในการจัดชุมนุมหลายๆ ครั้งนั้นผ่านไปด้วยดี ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่านิสิตนักศึกษาที่จัดงาน จัดอย่างมีวุฒิภาวะ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ใครกล่าวหาว่าเป็นการชุมนุมเพื่อกระตุ้นรุนแรงปิดเกมแต่อย่างใด ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าข้อกล่าวหานั้นไม่เป็นจริง

อยากฝากรัฐบาล เจ้าหน้าที่ว่าคนเหล่านี้ออกมาใช้เสรีภาพของตนเอง เป็นคนที่มีความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง ควรต้องยุติกระบวนการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ และเปิดให้ทุกคนได้ใช้เสรีภาพ เพราะถ้ารัฐบาลเข้มแข็งจริง ทำผลงานได้อย่างดีจริง โครงสร้างรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้ขนาดนี้แล้ว รัฐบาลท่านคงไม่ได้ล้มในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน อย่ากลัวจนเกินไป

"การชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนรอบนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีการพูดถึงการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วก็ถูกฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายอนุรักษ์นิยมตกขอบ กล่าวหาว่าเป็นพวกล้มล้างสถาบัน แต่ในท้ายที่สุดก็จะเห็นชัดว่า สังคมไทยเราเติบโตมาขึ้นกว่าเดิมเยอะ เราเรียนรู้กับประชาธิปไตยมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ เรามีวุฒิภาวะกันมากขึ้น ผ่านกันมาได้หลายเดือนแล้วที่มีการพูดกันตรงไปตรงมาเรื่องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งที่มีคนกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี แต่สังคมไทยก็ยินยอมพร้อมที่จะรับฟังกันในเรื่องหนักๆ อย่างนี้ได้ ซึ่งก็เป็นนิมิตหมายที่ดี 

หากเราคิดว่าเส้นทางที่ผ่านมา 44 ปี 6 ตุลาคม 2519 สอนอะไรกับเรา ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ก็ช่วยได้เยอะ พี่น้องสื่อมวลชนช่วยได้เยอะ ร่วมกันประคับประคองสถานการณ์ไม่ใช่ไปซ้ำเติมปลุกปั่นให้แรงมากขึ้นกว่าเดิม แต่ว่าเป็นการพยายามสร้างพื้นที่สาธารณะให้มีการถกเถียงกันในประเด็นอ่อนไหวอย่างเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ได้" อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ กล่าว

ปิยบุตร กล่าวด้วยว่า การชุมนุมครั้งนี้ คงจะไม่ใช่แบบม้วนเดียวจบหรือไม่ชนะไม่เลิก เชื่อว่า การชุมนุมแต่ละครั้งได้ทำลายความชอบธรรมการมีอยู่ของรัฐบาลสืบทอดอำนาจได้เรื่อยๆ อยู่แล้ว และเชื่อว่าถ้าประชาชนออกมาแสดงพลังให้เห็น ผู้มีอำนาจก็ต้องคิดว่าท่านจะยังครองอำนาจอย่างนี้ต่อไป หรือคืนอำนาจประชาชนแล้วสร้างกติกากันใหม่ ถ้าจะกลับมาก็ต้องมาตามระบบปกติ

"ถ้าคุณประยุทธ์คิดถึงลูกๆ หลานๆ คิดยาวๆ น่าจะออกไปได้แล้ว" ปิยบุตร กล่าว


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: