ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายรัฐบาลเร่งด่วนหัวหน้าส่วนราชการ วอนฝ่ายค้านและรัฐบาลร่วมทำงานให้คำนึงถึงประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ขอร้องอะไรไม่ควรพูดควรหยุด พร้อมขอโทษรัฐมนตรีเรื่องถวายสัตย์ปฎิญาณ ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมชี้แจงนโยบายรัฐบาลเร่งด่วน 12 ข้อ ที่จะผลักดันให้เเล้วเสร็จภายใน 1 ปี ต่อผู้บริหารระดับสูง และหัวหน้าส่วนราชการ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ หลังเมื่อวานนี้ (7 ส.ค.) ได้ลงพื้นที่จังหวัดยะลาได้รับมิตรไมตรีจากประชาชนและพอใจการทำงานของรัฐบาล ในการแก้ปัญหาความมั่นคง ปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และการพัฒนาด้านต่างๆ ซึ่งเรื่องความมั่นคงอาจต้องใช้เวลา

โดยนายกรัฐมนตรีใช้โอกาสนี้ชี้แจงประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณ ว่า เป็นประเด็นสำคัญตนขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว นั่นคือเรื่องที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ หรือ อะไรก็แล้วแต่ ตนเป็นห่วงกังวลอยู่อย่างเดียว ว่าจะทำอย่างไรถึงจะทำงานได้ ก็หวังให้ทุกคนได้ทำงานต่อไป อย่างไรก็ตามต้องไปศึกษาในรัฐธรรมนูญดูว่าเขียนว่าอย่างไร อย่างไรก็ตามก็คงยังจะมีรัฐบาลอยู่ และต้องขอโทษบรรดารัฐมนตรีด้วย เพราะผมถือว่าผมได้ทำเต็มที่แล้ว

วันนี้เรากระบวนการประชาธิปไตยที่ผ่านมาแล้ว มีคนดีๆ ที่เข้ามาทำงานแล้ว ดังนั้นเรื่องเก่าๆ อยากจะขอร้องว่า อะไรที่ไม่ควรพูดก็ไม่ควรพูด ตนเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ควรให้พิสูจน์การทำงานตนให้เกียรติทุกคนและมีความสุขกับการทำงานร่วมกับรัฐมนตรีในช่วงไม่นานมานี้ 

ดังนั้นฝากถึงพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้านต้องคำนึงถึงประชาชนและประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ส่วนเรื่องอื่นถือเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญขอให้เป็นไปตามขั้นตอน และต้องถามประชาชนด้วยว่าจะได้ประโยชน์อะไรจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญและต้องเป็นที่ยอมรับจากประชาชน ตนไม่ขัดข้องอยู่แล้ว และอยากให้สร้างการเรียนรู้ให้ข้าราชการและประชาชนมากขึ้น เพราะบางครั้งประชาชนไม่รู้กฎหมายว่าอะไรทำได้ทำไม่ได้ สิ่งสำคัญคือความรู้ความเข้าใจ โดยขอให้ทุกกระทรวงนำไปพิจารณาด้วย

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงงบประมาณงานลงทุน ว่าต้องไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 20 ส่วนเรื่องการจัดเก็บภาษี จะต้องมีการจัดเก็บภาษีออนไลน์ขึ้นอยู่กับรายได้ ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้นในตอนนี้ถือว่ามีความปลอดภัยและทั่วโลกให้การยอมรับ เพราะมีความมั่นใจในเงินสำรองของไทยที่มีพอสมควร 

ส่วนการท่องเที่ยว เป็นรายได้หลักของประเทศไทย แม้จะมีการแข่งขันกันมากขึ้นในต่างประเทศ ฉะนั้นเราต้องปรับตัวให้สอดคล้อง สิ่งสำคัญประชาชนในพื้นที่จะต้องไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวเช่นเรื่องการจราจร 

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังพูดถึงการนำเสนอข่าว ว่าห้ามไม่ได้ แต่อยู่ที่จิตสำนึกและจรรยาบรรณว่าเรื่องใดควรนำเสนอ หรือเรื่องใดควรรอความชัดเจน รวมถึงส่วนราชการการอะไรจริงไม่จริงควรรอความชัดเจน แต่ยืนยันไม่ต้องการผิดกั้นเสรีภาพใคร 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสุดท้าย การมอบนโยบาย นายกรัฐมนตรีได้ย้ำ ว่า อะไรที่เป็นปัญหาตนต้องขอโทษและรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว และไม่ตอบคำถามเรื่องนี้อีกแล้ว และหวังว่าทุกคนจะเข้าใจในเจตนาของตน และขอขอบคุณทุกฝ่าย 

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า นายกรัฐมนตรีได้พูดขอโทษและขอรับผิดชอบเเต่เพียงผู้เดียวถึง 3 ครั้งในการมอบนโยบายวันนี้ (8 ส.ค.)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง