ไม่พบผลการค้นหา
'ไพบูลย์' ยื่น 'ชวน' ชี้ 'เสรีพิศุทธ์ -ปธ.กมธ.35 คณะ' ใช้อำนาจ 'ออกคำสั่งเรียก' เกินขอบเขต ส่อขัดรธน. แจง รธน. 2560 ต่างจาก รธน. 2550

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้เข้ายื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานประธานสภาฯ เพื่อขอให้พิจารณาและแจ้งไปยัง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมถึงประธานคณะกรรมาธิการอื่นๆ และประธานคณะกรรมาธิการทั้ง 35 คณะ เพื่อระงับการออกคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการ

นายไพบูลย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของส.ส.และส.ว. พ.ศ. 2554 มาตรา 5 ,8 และ 13 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 129 เนื่องจากเห็นว่าเดิมรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 135 ได้บัญญัติให้คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา มีอำนาจออกคำสั่งเรียกและคำสั่งเรียกมีผลบังคับตามที่กฎหมายบัญญัติ แต่รัฐธรรมนูญ 2560 ได้ยกเลิกอำนาจของคณะกรรมาธิการฯ ในการออกคำสั่งเรียก และยกเลิกการให้คำสั่งเรียกมีผลบังคับตามที่กฎหมายบัญญัติ

คณะกรรมาธิการฯ จึงมีอำนาจเพียงเรียกเอกสาร หรือบุคคลมาชี้แจง แต่ไม่ใช่การออกคำสั่งเรียก ทั้งนี้ตนมองว่าหากมีการฝ่าฝืนก็จะถูกดำเนินคดีโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า การออกมาตรวจสอบครั้งนี้ไม่ได้ต้องการจะขัดขวางการทำงานของฝ่ายค้าน แต่ต้องการให้มีการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากรัฐธรรมนูญในอดีตกับปัจจุบันมีความแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามการทำงานของคณะกรรมาธิการก็สามารถดำเนินการได้อย่างปกติ และเชื่อว่าส่วนราชการต่างๆ ก็จะยินดีให้ความร่วมมือกับฝ่ายนิติบัญญัติ และที่สำคัญคณะกรรมาธิการจะต้องคิดว่าตัวเองไม่ได้มีอำนาจสอบสวนในลักษณะเดียวกับองค์กรอิสระ แต่เป็นเพียงคณะกรรมาธิการที่ทำหน้าที่ศึกษาและรายงานต่อสภาผู้แทนราษฏรเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม