ไม่พบผลการค้นหา
ผลประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เตรียมพร้อมเปิดประชุมสภาฯ ยังไม่เคาะร่วมรัฐบาลขั้วไหน เผย 23 พ.ค. นัดประกาศมติพรรคสนับสนุน 'ประยุทธ์' หรือไม่ ขณะที่ 'ชวน หลีกภัย' ตอบโต้ 'พีระพันธุ์' โพสต์พาดพิงผู้มากบารมีสกัดชิงหัวหน้า ปชป. - กรีด 'จุลเจิม' กล่าวหา ปชป. ปรับเปลี่ยนสถาบัน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีการประชุมนานกว่า 5 ชั่วโมงโดยมี 4 วาระการประชุม คือ การรับทราบ พ.ร.ฎ.เรียกประชุมรัฐสภา และการรายงานตัว ส.ส. ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร การแต่งตั้งนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ เป็นประธานที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และนายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส. จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นรองประธาน ส่วนประธานวิป ส.ส. เพื่อประสานงานต่างๆ ในรัฐสภา ได้แก่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองประธานวิปได้แก่ นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง

การปฐมนิเทศน์ ส.ส. พรรค โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค กล่าวถึงหน้าที่และการปฏิบัติตัวของ ส.ส. และวิธีการในระบบรัฐสภา พร้อมทั้งให้ ส.ส. เตรียมนำปัญหาของประชาชนมาตั้งกระทู้ถามหรือตั้งญัตติดำเนินงานในสภา ส่วนวาระที่ 4 การพิจารณาร่วมรัฐบาล ที่ประชุม ส.ส. มีมติให้กรรมการบริหารพรรคไปประสานงานกับพรรคการเมืองอื่นๆ ทั้งในรัฐสภาและฝ่ายบริหาร เพื่อนำข้อมูลกลับมาสู่การประชุมของพรรคอีกครั้งในวันที่ 23 พ.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นการประชุม ส.ส. และประชุมร่วมกับกรรมการบริหารพรรค โดยให้มีเป้าหมาย คือ 1.เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ 2.สถาบันหลักของประเทศมีความมั่นคงตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมาหกษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข 3.ได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีเป้าหมายสูงสุดเพื่อประชาชนและประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง

นายราเมศ ยืนยันว่าการพูดคุยวันนี้ยังไม่มีมติจากที่ประชุมว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคฝั่งใดและยังไม่มีการติดต่อจากพรรคการเมืองใดอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงยังไม่มีการพูดคุยกันถึงตำแหน่งในรัฐบาล เพราะยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะร่วมรัฐบาลกับใคร พร้อมทั้งชี้แจงว่าแม้จะมีความเห็นต่างกันในพรรคตอนนี้แต่ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด

แต่เมื่อสุดท้ายมีมติพรรคสมาชิกพรรคก็จะยอมรับและถือเป็นที่สิ้นสุด พร้อมยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีเอกภาพทางการเมือง ส.ส. และสมาชิกพรรคทุกคนจะยอมรับมติของพรรคและจะไปร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีกันอย่างพร้อมเพรียง ส่วนจุดยืนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคเคยประกาศในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งว่าไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีพรรคจะนำมาพูดคุยกันในการประชุมวันที่ 23 พ.ค.นี้เวลา 13.00 น.


ปชป.แถลงข่าว


ชวน หลีกภัย ประชาธิปัตย์

'ชวน' ซัด 'พีระพันธุ์' พาดพิงผู้มากบารมี แปลกใจ 'จุลเจิม'

ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมส.ส. ถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงผู้มากบารมีเข้ามาแทรกแซงการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ส่วนตัวไม่มีปัญหากับนายพีระพันธุ์ และที่ผ่านมาตนพูดถึงปัญหาภายนอกที่เข้ามาแทรกแซง ซึ่งความจริงมีมาตั้งแต่สมัยเลือกหัวหน้าพรรคครั้งที่แล้ว ซึ่งวันนี้มีข่าวพยายามแทรกเข้ามาด้วยการใช้เงิน และสิ่งต่างๆ ซึ่งตนได้คุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ว่าจะปล่อยเรื่องนี้หรือ เราต้องควรหาทางพูดกันอย่างไร หรือไม่

“ท่านไม่เอ่ยชื่อ คนทั่วไปก็รู้ว่าหมายถึงใคร จึงขอเรียนว่าผมไม่ได้มีอะไรที่พูดพาดพิงนายพีระพันธุ์เลย พูดถึงบุคคลภายนอกที่พยายามเข้ามาแทรกแซงด้วยเงิน เพื่อซื้อคนในพรรค” นายชวน กล่าว

นายชวน กล่าวอีกว่า มีเหตุการณ์แปลกที่เกิดขึ้น คือ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าปัจจุบันในพรรคประชาธิปัตย์มีอีแอบที่อยากเปลี่ยนแปลงสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งหัวหงอก หัวขาว หัวดำ แต่หากได้นายพีระพันธุ์เป็นหัวหน้าย่อมดีกว่าคนรุ่นใหม่ในพรรค ถ้านายกรณ์หรือนายอภิรักษ์เป็นหัวหน้าพรรค เตรียมสูญพันธุ์และสถาบันพระมหากษัตริย์จะอยู่ในช่วงอันตราย เพราะคนรุ่นใหม่ของประชาธิปัตย์มีแผนเปลี่ยนแปลงสถานภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นแบบของประเทศญี่ปุ่น ขนาดถึงขั้นไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคำสัมภาษณ์นี้กระทบพรรคและคนในพรรคทุกคน แต่มันแปลกตรงที่เชียร์นายพีระพันธุ์และกล่าวหาคนอื่น

นายชวน กล่าวต่อว่า ความจริง ม.จ.จุลเจิม ดีกับพวตน และพวกตนก็ให้ความเคารพนับถือมาโดยตลอด แต่เที่ยวนี้แปลก รวมทั้งสื่อที่ทำโพลผู้สมัครทั้ง 4 คน ซึ่งมีผลโพลออกมาแปลกๆผิดปกติ เช่น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ได้เสียงน้อยที่สุด ต่อมาได้รับทราบจากนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ได้ไปพูดกับโทรทัศน์ช่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งพอเขาเลิกล็อกก็ทำให้คะแนนของนายจุรินทร์เพิ่มขึ้น อันนี้ทำให้น่าคิดว่าเพื่ออะไร เพื่อสร้างความชอบธรรมภายหลังอย่างไร

นายชวน ยังกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวได้โทรศัพท์ถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า ยืนยันไม่มีโทรศัพท์ไปคุย แต่ได้โทรศัพท์ไปหาพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่า กทม. โดยตรง เพราะรู้จักคุ้นเคยส่วนตัว ตนจึงถามตรงๆว่า มีข่าวว่าเงินผ่านมาทางคนของกทม. บางคนหรือไม่ ซึ่งท่านบอกว่าไม่มีข้อมูลเรื่องนี้

พีระพันธุ์ ประชาธิปัตย์ ถาวร อิสสระ DSC03506.jpg

เผยเหตุหนุน 'จุรินทร์' อาวุโส - ร่อนจดหมายถึง จุลเจิม ปัดเปลี่ยนแปลงสถาบัน

นายชวน กล่าวด้วยว่า การที่นายพีระพันธุ์พูดว่า ใครไม่อยู่ในอาณัติหรือฝ่ายตรงกันข้ามจะถูกพิฆาตก็ไม่จริง ตนไม่เคยพิฆาตใคร ไม่มีบารมี หรือแทรกแซงอะไร แม้แต่การจัดอันดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อก็มีพรรคพวกสนิทของตน โกรธไปหลายคน เพราะไม่ได้ไปช่วย ซึ่งยอมรับว่าจริง แม้แต่บุตรชายของตนก็ไม่ได้ช่วยหรือแทรกแซงอะไร ดังนั้น ตนจึงไม่ได้มีอิทธิพลบารมีที่จะทำให้คนนั้นเสียหรือดีขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม กรณีเลือกหัวหน้าพรรคได้พูดกับผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยเฉพาะกับนายกรณ์ ว่า ตนเลือกนายจุรินทร์ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธเขา ทั้งในด้านอาวุโสสูงสุด วัยวุฒิ คุณวุฒิ อีกทั้งประสบการณ์ไม่ได้ด้อยกว่าใคร และถ้าพูดถึงโอกาส นายกรณ์ นายพีระพันธุ์ และนายอภิรักษ์ ยังมีโอกาสวันข้างหน้ามี เพราะอายุยังน้อยกว่านายจุรินทร์นับสิบปี แต่ตนไม่ได้บังคับใคร อย่างนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ก็ไม่ได้บังคับ ไปถามเขาดูได้

“เราต้องหาทางป้องกัน เพราะถ้ามีอิทธิพลเข้ามาจากภายนอก เพียงเพื่อนำคนของตัวเองเข้ามาตัดสินใจให้พรรคร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลง่ายๆ จะผิดวัตถุประสงค์ไป เพราะที่จริงเลือกใครเป็นหัวหน้าพรรค ไม่ใช่ว่าคนนั้นสั่งได้ เพราะอยู่ที่มติส.ส.และกก.บห. ถึงตอนนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่หัวหน้าพรรคตัดสินใจได้คนเดียว นั่นคือระบบพรรค ผมพูดหลายครั้งว่าให้แบ่งแยกว่าการเลือกหัวหน้าพรรค กับการตัดสินใจร่วมรัฐบาลเป็นคนละเรื่อง ให้แยกกัน จึงพูดให้รู้ว่าผมไม่เคยไปพูดหรือยุ่งเกี่ยวนายพีระพันธุ์ พูดถึงแต่เรื่องการแทรกแซง แต่ผลการแทรกแซงได้กับใครก็รู้ๆกันอยู่ แต่เราไม่เอ่ยถึง รวมถึงม.จ.จุลเจิมได้พูดในพรรค ผมก็ร่างจดหมายกราบเรียนให้ท่านดูว่าสิ่งที่ท่านพูดมาไม่จริง พรรคเราต่างเชิดชูชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างมั่นคงทั้งในนโยบายและทางปฏิบัติ ดังนั้น การที่กล่าวหาว่าถ้าเลือกคนอื่น หรือนายกรณ์ หรือนายอภิรักษ์จะมีปัญหา มันไม่ยุติธรรมกับบุคคลเหล่านี้ ผมจะทำหนังสือถึงท่านเป็นการส่วนตัวอีกทีหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ร่างไว้แล้ว” นายชวน กล่าว

เมื่อถามถึงความเป็นเอกภาพของพรรค นายชวน กล่าวว่า การทำอะไรตรงไปตรงมาจะดีที่สุด แต่ถ้าปล่อยให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น วันข้างหน้าจะมีปัญหาลามมา บอกเขาแล้วว่าถ้าปล่อยให้มีการใช้เงิน หรือใช้วิธีการที่ผิดหลักการของพรรค วันหลังคงต้องประมูล โดยส่วนตัวต่อต้านการซื้อเสียงมาโดยตลอด เราไปต่อต้านข้างนอก แต่เราปล่อยให้ทำในพรรคโดยไม่สนใจก็จะผิดแนวทางของเรา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง