โครงการรถไฟฟ้า MRT ที่เชื่อมใจกลางเมืองจาการ์ตาของอินโดนีเซียกำลังจะเปิดให้บริการประชาชนในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการกว่า 130,000 คนต่อวัน และจะช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางของประชาชนที่อาศัยอยู่ในจาการ์ตาได้เหลือเพียง 30 นาที เมื่อเทียบกับการจราจรบนท้องถนนที่อาจจะตัองใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงในการเดินทาง

เส้นทางเฟสแรกของรถไฟฟ้าเมืองจาการ์ตา จะเชื่อมต่อระหว่างใจกลางเมืองไปทางตอนใต้ของจาการ์ต้าที่เลบัค บูลัส โดยมีระยะทางทั้งสิ้น 16 กิโลเมตร

โครงการรถไฟฟ้าดังกล่าวเริ่มมีแผนก่อสร้างตั้งแต่ปี 1987 หรือ 32 ปีก่อน แต่เนื่องจากติดปัญหาเรื่องเงินทุนและปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดิน จึงทำให้โครงการถูกชะลอชั่วคราว และในปี 2013 นายวิโดโด โจโควี ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาได้สั่งรื้อโครงการรถไฟฟ้าดังกล่าวขึ้นมาสร้างใหม่อีกครั้ง ก่อนที่จะได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีในปี 2014 

โครงการรถไฟฟ้า MRT ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านโครงการ JICA ด้วยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อนำมาลงทุนกว่า 1,100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

(สภาพการจราจรของกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย)

นายดีโจโค เซติโจวาร์โน ผู้เชี่ยวชาญด้านการคมนาคมขนส่งของอินโดนีเซียกล่าวว่า "แม้ว่าเป้าหมายของการสร้างรถไฟฟ้านี้จะสร้างเพื่อให้ทันเปิดใช้ในกีฬาเอเชียนเกมส์เมื่อปีที่ผ่านมาแต่ไม่แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตามรถไฟฟ้าก็เสร็จทันการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งถือเป็นความโชคดีของโจโควีในทางการเมือง"

กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในเมืองที่ขึ้นชื่อว่า มีการจราจรที่ติดขัดมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ผลสำรวจเมื่อปี 2017 ระบุว่า ในแต่ละปีผู้ที่อาศัยอยู่ในจาการ์ตาจะใช้เวลาบนท้องถนนในแต่ละวันเฉลี่ย 68 นาที หรือใช้เวลากว่า 22 วันบนท้องถนนในแต่ละปี ขณะที่การจัดอันดับการจราจรทั่วโลกปี 2017 พบว่า กรุงจาการ์ตาติดอยู่ในลำดับที่ 12 จากการสำรวจกว่า 1,360 เมืองทั่วโลก เป็นรองกรุงเทพมหานครที่อยู่ในลำดับที่ 11

ที่มา SCMP / the jakarta post