ไม่พบผลการค้นหา
ชาวเมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย รวมตัวกันสั่งฟ้องประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังปัญหามลภาวะทางอากาศทวีความรุนแรงเกินทน

อายุ เอซา เทียรา ทนายจากสถาบันกฎหมายจาการ์ตา หนึ่งในทนายความที่ทำคดีนี้ กล่าวว่าขณะนี้มีชาวเมือง 31 คนร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย รัฐมนตรีมหาดไทย รัฐมนตรีสาธารณสุข รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม รวมถึงผู้ว่าฯ กรุงจาการ์ตา ผู้ว่าฯ จังหวัดบันเติน และผู้ว่าฯ จังหวัดชวาตะวันตก โดยกลุ่มผู้ฟ้องร้องเป็นประชาชนธรรมดา ประกอบด้วยศิลปิน นักวิชาการ และนักธุรกิจ ที่ต้องการเรียกร้องให้ศาลบังคับให้รัฐดำเนินมาตรการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพกว่านี้

"เราพยายามอย่างหนักเพื่อให้รัฐบาลตระหนักว่าปัญหามลพิษในจาการ์ตาและผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นย่ำแย่ขนาดไหน ด้วยการแสดงข้อมูลและผลการวิจัยให้พวกเขาเห็น แต่รัฐบาลยังคงไม่ตอบรับแก้ไข" อายุ เอซา เทียรา กล่าวและเสริมว่าหวังว่าการฟ้องร้องรัฐบาลในครั้งนี้ จะช่วยให้เกิดการพัฒนานโยบายและเป็นก้าวสำคัญต่อการแก้ปัญหามลภาวะทางอากาศ เนื่องจากนโยบายต่างๆ ในปัจจุบันนั้นไม่ได้ผล

รัฐบาลได้เคยปฏิเสธไม่ยอมรับว่าคุณภาพอากาศในจาการ์ตาย่ำแย่ลงในปีที่ผ่านมา และเรียกร้องสื่อว่า 'อย่าดราม่า' กับสถานการณ์ฝุ่นนัก ทว่าทางด้าน บนดีน อันดรียานู จากองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม กรีนีซ อินโดนีเซีย ชี้ว่ามลพิษในอากาศแย่ลงอย่างต่อเนื่อง

เว็บไซต์ Air Visual เผยว่าจาการ์ตาชี้ว่ากรุงจาการ์ตา มีค่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ยในปี 2561 ถึง 45.3 มค.ก./ลบ.ม. โดยสูงที่สุดในเดือนกรกฎาคมที่ 72.5 มค.ก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ยฝุ่น PM2.5 นี้สูงขึ้นจากในปี 2017 ซึ่งอยู่ที่ 29.7 มค.ก./ลบ.ม. ส่งผลให้ในปัจจุบันจาการ์ตาเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศย่ำเป็นอันดับที่ 160 ของโลก จัดเป็นเมืองที่มีมลพิษที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2561

อย่างไรก็ตาม ดัสรูล จานิอาโก ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมมลพิษ กระทรวงสิ่งแวดล้อมและป่าไม้อินโดนีเซีย กล่าวว่าทางรัฐบาลไม่ยอมรับการจัดอันดับของ Air Visual เนื่องจากใช้เครื่องมือที่ใช้วัดวัดคุณภาพอากาศตั้งอยู่ในร่ม ไม่ใช่กลางแจ้ง พร้อมเสริมว่าคุณภาพอากาศในจาการ์ตาแย่ลงเป็นปกติอยู่แล้วในช่วงหน้าแล้ง ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน

“อย่าดราม่าไปหน่อยเลย” จานิอาโก กล่าว

000_186687.jpg

สำหรับประเทศไทย รายงานของเว็บไซต์ Air Visual ชี้ว่าในกรุงเทพฯ มีค่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ยทั้งปี 25.2 มค.ก./ลบ.ม. โดยสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ 48.6 มค.ก./ลบ.ม. จัดเป็นเมืองมลพิษอันดับที่ 498 ของโลก ส่วนจังหวัดเชียงใหม่มีค่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ยทั้งปี 24.5 มค.ก./ลบ.ม. สูงสุดในเดือนมีนาคม 72.5 มค.ก./ลบ.ม. อยู่อันดับที่ 522 ของโลก ทั้งนี้ จังหวัดที่ Air Visual ชี้ว่ามีปัญามลพิษรุนแรงที่สุดคือจังหวัดสมุทรสาคร มีค่า PM2.5 เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 39.8 มค.ก./ลบ.ม. อยู่อันดับที่ 223 ของโลก

ในด้านของการสั่งฟ้อง เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมด้วยชาวกรุงเทพฯ 41 คน ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ว่านายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุม ระงับ หรือบรรเทาอันตรายจากการแพร่กระจายฝุ่นละออง PM2.5

จำเลยทั้งสามได้ขยายระยะเวลาชี้แจงออกไปเรื่อยๆ กระทั่งศาลนัดชี้แจงในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ จำเลยทั้งสามจึงได้ส่งผู้แทนรับมอบอำนาจมาให้ถ้อยคำต่อศาลซึ่งยืนยันการปฏิบัติตามมาตรการ 9 ข้อของนายกรัฐมนตรี และ ณ วันนั้นยังไม่มีการกำหนดรับฟังคำสั่งศาล

ขณะที่ทางประเทศฝรั่งเศสนั้น ในเดือนธันวาคม 2559 แม่ลูกคู่หนึ่งได้สั่งฟ้องรัฐ ฐานละเลยการแก้ปัญหากระทั่งได้รับความเจ็บป่วย ล่าสุด 25 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ศาลฝรั่งเศสได้ตัดสินว่ารัฐกระทำความผิด เนื่องจากไม่ได้มีมาตรการรับมือที่เพียงพอในการแก้ปัญหาคุณภาพอากาศ และศาลสั่งให้รัฐต้องออกมาตรการที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ในการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ

ที่มา: The Guardian / CNN / The Jakarta Post / BBC

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: