รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ เปิดเผยผลการตรวจสอบน้ำซึ่งเก็บจากสถานที่เกิดเหตุปะทะบริเวณแยกเกียกกาย ซึ่งตรวจสอบด้วยเทคนิคขั้นสูงโดยเครื่อง GC-MS ระบุว่า น้ำที่เก็บมามีสีฟ้าออกน้ำเงินเนื่องจากว่า ปนเปื้อนกับสีที่ผู้ชุมนุมใช้สีน้ำเงิน จึงปนกันกับน้ำสีม่วง ซึ่งได้นำมาสกัดด้วย DCM จนได้สารละลายสีม่วงพร้อมกับสารที่อยู่ในนั้นออกมาแยกชั้น จากนั้นจึงนำสารละลายสีม่วง ที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยเทคนิค gc-ms (Gas chromatography–mass spectrometry (GC-MS)) พบว่าสีม่วงคือ Methylviolet 2b (เมทิลไวโอเลททูบี) ซึ่งเป็นสีม่วงธรรมดา ไม่มีพิษภัยอะไร และเจอสารสำคัญ 5 ตัว ในสารละลายสีม่วง คือ
1. Dimethyl sulfoxide, DMSO (ไดเมททิล ซัลฟอกไซด์) เป็นสารประกอบอินทรีย์ซัลไฟด์ มีลักษณะเป็นของเหลวไม่มีสี จุเดเดือดสูง นิยมใช้เป็นตัวทำละลายและใช้เป็นสารทำความสะอาดส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองถ้าได้รับในปริมาณมาก
2. 2-Chlorobenzaldehyde (2-คลอโรเบนซัลดีไฮด์) ลักษณะไม่มีสีหรือของเหลวใสสีเหลืองเล็กน้อย ข้อควรระวังคือทำให้ผิวหนังไหม้อย่างรุนแรงและทำลายดวงตา โดย 2-Chlorobenzaldehyde ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิต o-chlorobenzyl Dene malononitrile หรือ 2-chlorobenzalmalononitrile หรือ o-Chlorobenzyl malononitrile ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ในแก๊สซีเอส (CS gas) ซึ่งเมื่อโดนแก๊สน้ำตาเข้าไปแล้ว จะเกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตาและแก้วตาดำ ทำให้มีน้ำตาไหลออกมาก เยื่อบุตาจะแดงและแก้วตาดำจะบวม ตามองไม่เห็น น้ำมูกน้ำลายไหล ไอ หายใจลำบาก เมื่อร่างกายสัมผัสกับแก๊สน้ำตามักจะเกิดอาการภายในวินาทีหรือหลายนาที อาการจะเป็นอยู่นานประมาณ 15 –30 นาทีส่วนใหญ่จะหายเองภายในหนึ่งชั่วโมง
3. 2-Chlorobenzyl alcohol (2-คลอโรเบนซิลแอลกอฮอล์) มีลักษณะเป็นผงสีขาว โดยสารตัวนี้ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ทั้งต่อดวงตา ผิวหนัง แม้แต่การสูดดมเข้าไป
4. 2-chlorobenzalmalononitrile (2-คลอโรเบนซัลมาโลโนไนไตร) หรือ o-Chlorobenzyl malononitrile (CS gas) 2-chlorobenzalmalononitrile หรือ o-Chlorobenzyl malononitrile ทางทหารเรียกสั้นๆว่า CS จัดเป็นอาวุธเคมี (chemical weapon) ที่ใช้คุมฝูงชน แต่ไม่ทำให้ถึงตาย (non-lethal chemical weapon) โดยปกติในอุณหภูมิห้อง ไม่ได้อยู่ในสถานะก๊าซ เป็นของแข็ง แต่ทำเป็นละอองได้ เหมือนสเปย์พริกไทย
5. o-Chlorobenzyl malononitrile เป็นสารก่อการระคายเคืองเหมือนกันที่อยู่ใน CS gas เหมือนกัน เป็นอนุพันธ์ของสารหมายเลข 4
รศ.ดร.วีรชัย อธิบายว่า สารหมายเลข 1 เป็นตัวทำละลาย เพื่อทำให้สารอีก 4 ตัวละลายรวมเป็นเนื้อเดียวกันเป็นหัวเชื้อ ส่วนสารหมายเลข 2 3 4 5 เป็นกลุ่มแก๊สน้ำตาซึ่งใส่ตัวเดียวก็เกินพอแล้วครับแต่ใส่ไปทั้งหมด 4 ตัว ดังนั้นความเข้มข้นที่คำนวณได้จากเครื่อง ดังนี้
รศ.ดร.วีรชัย ระบุว่า ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันได้แน่นอนว่า ความเข้มข้น 1% เทียบกับ 5% แก๊สน้ำตา(CS) อันไหนอันตรายกว่ากัน เนื่องจากความเสียหายส่วนใหญ่มาจากระยะในการยิง
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบในคนได้มีการศึกษาผลของ CS smoke or aerosol and exposure via inhalation พบว่า aerosol เมื่อทำการผลิตโดยวิธี thermal dispersion ที่มีขนาด 0.5 um ในตัวทำละลาย methylene chloride ทำการศึกษากับอาสาสมัครเป็นเวลา 90 นาที ในพื้นที่ขนาด 0.5-1 mg/m3 พบว่าอาสาสมัครมีอาการผิวไหม้บริเวณปาก หายใจแล้วแสบรวมถึงแน่นหน้าอก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :