ไม่พบผลการค้นหา
ศปถ. แถลงยอดอุบัติเหตุ 7 วันอันตราย วันที่ 4 พบอุบัติเหตุรวม 1,988 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 208 ราย และบาดเจ็บรวม 2,031 คน พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่คุมเข้มช่วงรอยต่อวันขึ้นปีใหม่ 31 ธ.ค. 2562 - 1 ม.ค. 2563

นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 เปิดเผยว่า ศปถ. โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 30 ธ.ค. 2562 ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการรณรงค์ "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" เกิดอุบัติเหตุ 485 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 48 ราย ผู้บาดเจ็บ 484 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 33.20 ขับรถเร็ว ร้อยละ 28.66 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.76 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 60.41 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.14 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 35.46 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 26.19 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.70 

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,044 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,757 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 998,559 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 221,435 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 59,953 ราย ไม่มีใบขับขี่ 52,650 ราย

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (18 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครปฐม (4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ และเลย (จังหวัดละ 19 คน)

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (27 - 30 ธ.ค.62) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,988 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 208 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 2,031 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 16 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (61 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (11 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครปฐม (66 คน) 

นายวิตถวัลย์ กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้ (31 ธ.ค.) ประชาชนส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่และมีการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รวมถึงหลายพื้นที่มีการจัดงานรื่นเริง จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าปกติ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้สั่งการจังหวัดดำเนินมาตรการลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยให้ปรับแผนการตั้งด่านชุมชนบนเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน ชุมชน เพื่อเข้าสู่ถนน สายหลัก เน้นการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ กวดขันตาม 10 มาตรการหลัก คุมเข้มบริเวณสถานบันเทิง พื้นที่จัดงาน และบริเวณเส้นทางโดยรอบที่มีการจัดงานรื่นเริง (Countdown) และจุดที่มีประชาชนมารวมกันเป็นจำนวนมาก 

นอกจากนี้ ได้กำชับให้ดำเนินมาตรการควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการจำหน่ายแก่กลุ่มเด็กและเยาวชนที่อายุไม่ถึง 20 ปี รวมถึงการจำหน่ายสุราในลักษณะเร่ขาย ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ใช้มาตรการเชิงรุกทั้งด่านครอบครัว ด่านชุมชน เพื่อป้องปรามและเตือนให้ผู้ขับขี่ "ดื่มไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว คาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง" โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความประมาท เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ และร่วมกันมอบความปลอดภัยเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน

นอกจากนี้ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ในปีนี้ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ ปภ. ซึ่งจัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำด่าน กว่า 117 ด่านทั่วประเทศ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ประจำศาลในคดีที่มีผู้ต้องถูกคุมประพฤติขึ้นศาลอยู่

อย่างไรก็ตามพบว่า ในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 27-30 ธ.ค. มีผู้ต้องคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 4,856 คดี หรือร้อยละ 96.96 และพบว่ามีการกระทำผิดซ้ำ 63 ราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวจะต้องมีการประเมินพฤติกรรมว่าหากเข้าข่ายติดสุรารุนแรงจะต้องเข้ารับการบำบัดหรือเข้าข่ายเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อไป เช่น อาจมีการนำเข้าไปชมห้องดับจิต และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลืออุบัติเหตุทางรถยนต์ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง