ไม่พบผลการค้นหา
ที่ประชุมสภาฯ ลงมติเฉือนเพียง 1 เสียงให้แก้ข้อบังคับการประชุม โดยกำหนดให้ประธานต้องวางตัวเป็นกลาง หลังฝ่ายค้านยกท่าที 'ชวน' ไม่ฟังปัญหาลงคะแนนเสียง ด้าน 'ชวน' ย้ำปฏิบัติตามกฎหมาย ปกป้องศาล รธน. หากไม่มีศาลบ้านเมืองจะเละเทะ

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานที่ประชุม ได้พิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มีนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน มีทั้งสิ้น 192 ข้อ และมีผู้เสนอคำแปรญัตติทั้งสิ้น 23 คน โดยสมาชิกได้ลุกขึ้นอภิปรายในข้อ 9 หน้าที่และอำนาจของประธานสภาฯ ซึ่ง กมธ.เสียงข้างมาก เพิ่มถ้อยให้ ประธานสภาฯ ต้องวางตนเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่ง ส.ส.ฝ่ายค้านได้ลุกแสดงความเห็นด้วย ยกตัวอย่างกรณีที่นายชวน ทำหน้าที่ประธาน เมื่อครั้งประชุมครั้งแรกที่หอประชุมชั่วคราว หอประชุมใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และมีปัญหาเรื่องการออกเสียงลงคะแนนผ่านบัตรลงคะแนน

โดยนายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนขอเพิ่มข้อความให้ประธานสภาฯ ต้องวางตนเป็นกลาง ยึดถือข้อบังคับอย่างเคร่งครัด พร้อมยกตัวอย่างกรณีแจกบัตรออกเสียงสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ไม่เห็นด้วยมากกว่าบัตรสีเขียว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเห็นด้วยในการประชุมสภาฯ จนทำให้มีปัญหาเรื่องคะแนนผิดพลาด ซึ่งตนได้ทักท้วงแต่นายชวนไม่รับฟัง จึงขอเติมถ้อยคำดังกล่าว

'ชวน' ย้ำปฏิบัติตามกฎหมาย ป้องศาล รธน.

ด้าน นายชวน ชี้แจงว่า ตนยอมรับว่า การลงคะแนนตามที่ทักท้วงนั้นมีการนับคะแนนผิดพลาดจริงเพียง 2-3 คะแนน แต่ไม่ใช่จากการแจกบัตรลงคะแนนสีใดมากกว่ากัน เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นอาชญากรรม และมีความผิดตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าการทำหน้าที่ของตนนั้น เป็นไปตามกฎหมาย และเป็นไปเพื่อรักษาสมบัติของสภาให้มากที่สุด อย่างกรณีที่มีการประชุมรัฐสภาอาเซียน มีผู้เสนอให้เช่ารถในส่วนของรัฐสภาไทย วันละ 18,000 บาท ซึ่งตนบอกว่าขอสละสิทธิ์ดังกล่าว เพื่อรักษาสมบัติไว้ ทั้งนี้ตนเข้าใจข้อกังวลของสมาชิกนั้น อาจเกิดจากในอดีตมีเหตุการณ์ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นคนของผู้อภิปรายเคยมีพฤติกรรมที่ทำให้สมาชิกกังวล แต่ตนยืนยันว่าไม่เป็นแบบนั้น

ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ยังอภิปรายติดใจในการปฏิบัติหน้าที่ของประธานสภาฯ โดยพาดพิงนายชวนต่อเนื่อง ถึงความอาวุโสและการปฏิบัติหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายกำหนดไว้ 

ทำให้ นายชวน ชี้แจงว่า รัฐธรรมนูญตนไม่ได้รับ และไม่เห็นด้วย แต่ตนเป็นคนที่เคารพกฎหมาย และคิดว่าจะแก้ไขให้ดีขึ้นอย่างไร รวมถึงคิดเสมอว่า ต้องทำให้การเมืองดีขึ้น ตนไม่ใช่คนดีแต่ปาก ที่ผ่านมาได้รับเลือกตั้งมาโดยสุจริตไม่ซื้อเสียง หรือโกงเลือกตั้ง ซึ่งคนที่มีเบื้องหลังเข้ามาในสภาที่สุจริต ไม่ว่าอายุน้อยหรืออายุมาก ถือเป็นคนที่น่านับถือที่มีสมาชิกอภิปรายพาดพิงถึงศาลรัฐธรรมนูญว่าไม่ยุติธรรมนั้น ตนมองว่าหากไม่มีศาลรัฐธรรมนูญบ้านเมืองจะเละเทะ มีแต่คนโกงบ้าน โกงเมือง

"ผมเข้าใจว่า หากคนโกงบ้านโกงเมืองมองว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่น่าเชื่อถือ จะไม่น่าเชื่อถือ แต่หากอยู่ในวงคนสุจริตจะมองว่าตัดสินถูกต้อง ดังนั้นต้องยึดหลักที่ถูกต้อง โดยไม่บิดเบือนความจริง ที่ผ่านมามักมีทหารที่ไม่ดี มีพระในวัดที่ไม่ดี มีผู้แทนที่ไม่ดี แต่อย่าเหมารวม ทั้งนี้อย่าประเมินว่าคนที่มาแบบนี้ไม่น่าเชื่อถือ" นายชวน ระบุ


ส.ส.หญิงพรรคพลังประชารัฐปารีณามงคลกิตติ์

ปชป.ท้วงเสียงบัตร - พท.โต้กลับยก ป.ป.ช.ชี้คลิปตัดต่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ข้อบังคับดังกล่าว มีส.ส. อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ทั้งที่สนับสนุนให้บัญญัติ เพื่อให้ประธานสภาฯต้องปฏิบัติและยึดถือโดยเคร่งครัด ขณะที่ฝ่าย ไม่เห็นด้วยเพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 115 เขียนเป็นมาตรฐานการทำหน้าที่ ขณะที่กมธ. นั้นพบการชี้แจงที่แตกต่างกันเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งที่เห็นว่าไม่ควรเขียนถ้อยคำว่า “ต้องเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่” และไม่ควรเขียนเพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติเป็นมาตรฐานการทำงาน

โดยก่อนลงมติในข้อ 9 ได้มีความวุ่นวาย หลังน.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายถึงเหตุการณ์ในอดีตที่พบการพกอาวุธเข้ามายังภายในห้องประชุม และพบสมาชิกเสียบบัตรแทนกันจนทำให้สภาฯ เกิดความเสียหาย ทำให้ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ใช้พาดพิงในฐานะเป็นบุคคลที่ถูกระบุว่า เป็นส.ส.เสียบบัตรแทนกัน ว่า หลักฐานที่น.ส.รังสิมา นำไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถือเป็นคลิปตัดต่อ ซึ่งได้รับการพิสูจน์ว่าตนไม่มีความผิดและยังได้รับเลือกให้เป็น ส.ส. 

205 ต่อ 204 เสียง เห็นด้วยแก้ข้อบังคับฯ ปธ.สภาเป็นกลาง

ทั้งนี้ นายชวนได้ตัดบทการโต้ตอบระหว่างน.ส.รังสิมา และ นายยุทธพงศ์ เพื่อให้ลงมติในข้อบังคับดังกล่าว ก่อนที่เสียงข้างมากจะมีมติ 205 เสียง ต่อ 204 เสียง เห็นด้วยกับที่กมธ.แก้ไขข้อบังคับ งดออกเสียง 2 เสียง

จากนั้นทีประชุมสภาฯ ได้ลงมติว่า จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขที่ว่า ให้ประธานทำหน้าที่เป็นกลาง โดยผลลงมติเสียงข้างมาก 409 เสียงต่อ 2 เสียงเห็นด้วยกับการแก้ไข

ก่อนที่นายชวนขอเลื่อนการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุม และขอให้พิจารณาต่อในการประชุมสภาฯ สัปดาห์ต่อไปจากนั้นได้ปิดประชุม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง