ไม่พบผลการค้นหา
นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ทำหนังสือถึง รมว.สาธารณสุข ระบุ โรงพยาบาล 250 แห่ง ประสบปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยเข้าขั้นวิกฤต และไม่สามารถจัดซื้อ-จัดหาได้ หลังกรมการค้าภายในประกาศเป็นสินค้าควบคุม

สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ทำหนังสือลงนามโดย ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ลงวันที่ 27 ก.พ. 2563 ถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรื่องโรงพยาบาลเอกชนประสบปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย สำหรับใช้ป้องกันโรคโควิด-19 ในขั้นวิกฤต โดยมีเนื้อหาดังนี้

เนื่องจากการระบาดของโรคอุบัติใหม่ โรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ให้โรงพยาบาลเอกชนทุกแห่งเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจระบาดในวงกว้างขึ้น ซึ่งเป็นผลให้โรงพยาบาลเอกชนมีการรับคนไข้ที่มีความเสี่ยงมากกว่าร้อยละ 70 ในโรงพยาบาล

แต่ปัจจุบันโรงพยาบาลเอกชนประสบปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยเข้าขั้นวิกฤต และโรงพยาบาลเอกชนบางแห่งไม่มีหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ทำให้บุคลกรทางการแพทย์ต้องใช้หน้ากากผ้า ซึ่งมีความเสี่ยงมาก ทั้งนี้เป็นเพราะไม่สามารถจัดซื้อจัดหาหน้ากากอนามัยได้ เพราะกรมการค้าภายในได้ประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม และโรงงานผู้ผลิตต้องจัดส่งให้กับกรมการค้าภายในเท่านั้น ไม่สามารถจำหน่ายให้โรงพยาบาลเอกชนได้ ทั้งนี้ได้ติดต่อขอซื้อจากกรมการค้าภายใน แต่ได้รับคำตอบว่าให้แจ้งเข้าไปเพื่อเข้าระบบการรอคิว

ในหนังสือยังระบุด้วยว่า หากไม่มีหน้ากากอนามัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และคนไข้ที่มีความเสี่ยงในการติดโรคที่รับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน อาจเกิดผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง และส่งผลร้ายแรงมากยิ่งขึ้น จะทำให้ไม่สามารถควบคุมการระบาดของโรคได้

สมาคมโรงพยาบาลในฐานะผู้แทนของโรงพยาบาลเอกชนจำนวน 250 แห่งทั่วประเทศ จึงได้ทำการสำรวจจำนวนหน้ากากอนามัยขั้นต่ำที่ต้องการใช้แต่ละวัน และขอความอนุเคราะห์ได้โปรดจัดสรรหาหน้ากากอนามัยให้กับโรงพยาบาลเอกชน เพื่อจะได้สามารถควบคุมและป้องกันไม่ให้มีการระบาดมากไปกว่านี้ หรือให้โรงพยาบาลสามารถจัดซื้อจัดหาจากที่ใด เพื่อให้มีใช้โดยประสานงานกับทางสมาคมฯ เพื่อให้ปันส่วนให้โรงพยาบาลเอกชนได้เท่ากันอย่างเพียงพอ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :