ไม่พบผลการค้นหา
ยูเนสโกลงมติให้ขึ้นทะเบียน 'เมืองพุกาม' เป็น 'มรดกโลกทางวัฒนธรรม' หลังเคยถูกเสนอชื่อมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 1995 แต่คำร้องถูกปัดตก เพราะสมัยนั้นเมียนมายังปกครองโดยรัฐบาลเผด็จการทหาร

คณะกรรมการมรดกโลกขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) มีมติในการประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 43 ที่กรุงบากู เมืองหลวงของอาเซอร์ไบจาน เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.2562) ให้ขึ้นทะเบียนเมืองพุกาม ในเขตมัณฑะเลย์ ตอนกลางของเมียนมา เป็น 'มรดกโลกทางวัฒนธรรม' (World Heritage Site) นับตั้งแต่ปี 2019 นี้เป็นต้นไป

เว็บไซต์เดอะเมียนมาไทม์สรายงานว่า พุกามเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 2 ของเมียนมา ต่อจากเมืองโบราณอาณาจักรพยู ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกเมื่อปี 2014 และรัฐบาลเมียนมาคาดหวังว่าการขึ้นทะเบียนพุกามเป็นเมืองมรดกโลกจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวด้านการท่องเที่ยว รวมถึงเกิดการบริหารจัดการพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

เมืองพุกามและพื้นที่โดยรอบเคยเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจากประเทศแถบยุโรป แต่บรรยากาศการท่องเที่ยวถือว่าซบเซาลงไปมาก หลังเกิดเหตุปะทะนองเลือดและล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาที่รัฐยะไข่ของเมียนมา ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศโดยรวม ทำให้นักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางมายังเมียนมาลดลง

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับการอนุมัติขึ้นทะเบียนเมืองพุกามเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม รัฐบาลเมียนมาได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะออกคำสั่งย้ายโรงแรมหรือที่พักต่างๆ ที่อยู่ในเขตเมืองโบราณไปอยู่ที่บริเวณรอบนอก ซึ่งจัดสรรเป็นเขตที่พักสำกรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้ปริมาณนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้าไปที่เมืองพุกามส่งผลกระทบต่อสถูปและเจดีย์ต่างๆ ที่เป็นโบราณสถานในเมืองมรดกโลกแห่งนี้ โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2028

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าเจดีย์และสถูปที่กระจายตัวอยู่ทั่วพุกามมีจำนวนกว่า 3,500 แห่ง อายุเก่าแก่ เพราะสร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 - 13 แต่พื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบอย่างหนักเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 แมกนิจูดในเมียนมาเมื่อปี 2016 โดยวัดวาอารามกว่า 200 แห่งได้รับความเสียหาย และเจดีย์เก่าแก่ในบางจุดพังถล่มลงมาจนยากต่อการบูรณะซ่อมแซม 

ทั้งนี้ เมืองพุกามเคยได้รับการเสนอชื่อขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 1995 แต่สมัยนั้นเมียนมายังอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า คณะกรรมการฯ ยูเนสโกจึงลงมติไม่รับคำร้อง เพราะเกรงว่าการดูแลรักษามรดกโลกจะดำเนินไปโดยปราศจากการตรวจสอบถ่วงดุลและไม่ได้มาตรฐาน

Photo by Daniel Ferrandiz Mont on Unsplash

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: