ไม่พบผลการค้นหา
หน่วยงานด้านธรณีวิทยาอินโดนีเซียระบุ ภูเขาไฟ 'เมราปี' และ 'อะนักกรากะเตา' ปะทุพ่นควันเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ตรงกับช่วงที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ จำกัดการเดินทางในบางพื้นที่ของกรุงจาการ์ตาเพื่อป้องกันโรคโควิด-19

สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติจากภูเขาไฟและธรณีวิทยาแห่งอินโดนีเซีย (PVMBG) เปิดเผยว่า ภูเขาไฟอะนักกรากะเตา ในเขตเมืองลัมปุง ไม่ไกลจากกรุงจาการ์ตา ปะทุพ่นควันออกมาหลายระลอก ช่วงกลางดึกวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เถ้าภูเขาไฟลอยสูงเหนือปากปล่องราว 200 เมตร และฟุ้งกระจายในอากาศ

อย่างไรก็ตาม PVMBG กล่าวว่า พื้นที่ใกล้เคียงภูเขาไฟอะนักกรากะเตาไม่ได้รับผลกระทบจากเถ้าภูเขาไฟมากนัก และการประกาศเตือนภัยพิบัติยังอยู่ที่ระดับ 2 คือ 'เฝ้าระวัง' แต่ยังไม่มีคำสั่งให้เตรียมตัวอพยพ และไม่มีสัญญาณเตือนภัยคลื่นสึนามิ เนื่องจากไม่พบแรงสั่นสะเทือนรุนแรงใต้ดิน

ผู้ใช้ทวิตเตอร์บางรายในอินโดนีเซียระบุว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นกลางดึกวานนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น คาดว่าเป็นเพราะมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนในกรุงจาการ์ตาทำให้เมืองเงียบ จึงได้ยินเสียงปะทุของภูเขาไฟชัดเจน

ทว่า เจ้าหน้าที่สำนักงาน PVMBG เปิดเผยกับ The Jakarta Post ว่า ภูเขาไฟอะนักกรากะเตาไม่น่าจะระเบิดรุนแรงเสียงดังไปถึงจาการ์ตา เพราะประชาชนในลัมปุงจำนวนมากยืนยันว่า ไม่ได้ยินเสียงปะทุพ่นควันแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ภูเขาไฟอะนักกรากะเตาเคยปะทุพ่นควันครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2561 ทำให้เกิดสึนามิซัดถล่มเมืองชายฝั่งที่อยู่ติดกับช่องแคบซุนดา ระหว่างเกาะชวาและเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 430 ราย และปะทุอีกครั้งในเดือน ม.ค.2562 

ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ Tempo รายงานว่า ภูเขาไฟ 'เมราปี' ในเมืองยอกยาการ์ตา บนเกาะชวากลางของอินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น เกิดปะทุพ่นควันเถ้าภูเขาไฟออกมาเช่นกัน โดยควันเถ้าภูเขาไฟสูงเหนือปากปล่องราว 3,000 เมตร

เหตุภูเขาไฟเมราปีเกิดขึ้นช่วงสายวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นการปะทุครั้งที่ 6 ในรอบ 2 สัปดาห์ ทำให้ชาวเมืองยอกยาการ์ตากังวลว่าจะเกิดผลกระทบตามมาหรือไม่ แต่ก็ยังไม่มีคำสั่งอพยพหรือประกาศเตือนภัยแต่อย่างใด 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: