ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงแรงงานระงับการเดินทางแรงงานไทย 260 คน หลังพบพฤติการณ์จะลักลอบไปทำงานต่างประเทศ พบเป็นแรงงานผิดกฎหมายเกาหลีใต้สูงสุด รองลงมาคือบาห์เรน เตือนทำงานผิดกฎหมายจะไม่ได้รับการคุ้มครองและสวัสดิการจากกฎหมายแรงงาน

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ได้สั่งคุมเข้มมาตรการลักลอบไปทำงานต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติเดือน ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา สั่งระงับการเดินทางของคนหางานที่มีพฤติการณ์จะลักลอบไปทำงานต่างประเทศ และให้การยอมรับว่าจะไปทำงานในต่างประเทศ จำนวน 260 คน โดยระงับไปเกาหลีใต้มากที่สุด จำนวน 220 คน รองลงมาเป็นบาห์เรน จำนวน 22 คน โอมาน จำนวน 8 คน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จำนวน 5 คน กาตาร์ จำนวน 4 คน และอินเดีย จำนวน 1 คน

ขณะที่มีคนหางานเดินทางไปทำงานและฝึกงานในต่างประเทศผ่านด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิ ในเดือน ก.พ. 2563 ทั้งหมด จำนวน 6,156 คน ส่วนใหญ่ไปทำงานในแถบทวีปเอเชียมากที่สุด จำนวน 4,509 คน โดย 2 อันดับแรก คือ 1. ไต้หวัน 2,725 คน 2. เกาหลีใต้ 841 คน รองลงมาเป็นประเทศในแถบตะวันออกกลาง 723 คน และประเทศในแถบยุโรป 481 คน

ด้านนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางานมีมาตราการตรวจเข้มคนหางานไปทำงานในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยได้สั่งการเร่งด่วนให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนหางานประจำท่าอากาศยานต่างๆ เข้มงวด ตรวจสอบและระงับการเดินทางผู้ที่มีพฤติกรรมและต้องสงสัยว่าจะลักลอบไปทำงานในต่างประเทศ พร้อมกับชี้แจงให้ทราบถึงการไปทำงานหรือฝึกงานในต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่าต้องแจ้งหรือขออนุญาตต่อกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน

โดยประเทศเกาหลีใต้ยังคงเป็นประเทศที่ ถูกระงับการเดินทางมากที่สุด และคนงานไทยมีกระแสนิยมไปทำงานมากขึ้น เพราะได้รับอัตราค่าจ้างที่สูง ประกอบกับนายจ้างต้องการจ้างแรงงานไทยเนื่องจากขยัน อดทน จึงทำให้มีแรงจูงใจไปทำงานมากขึ้น ซึ่งทางด่านตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ก็เพิ่มความเข้มงวดคนไทยที่จะเดินทางเข้าประเทศมากขึ้นเช่นกัน เพราะปัจจุบันการเดินทางไปเกาหลีใต้ไม่ต้องใช้วีซ่า ที่ผ่านมาพบว่า แรงงานไทยที่มีพฤติการณ์จะลักลอบไปทำงาน นิยมแอบแฝงไปกับบริษัททัวร์ที่มีโปรแกรมท่องเที่ยวในเกาหลี และเมื่อเดินทางถึงสนามบิน ก็จะแยกออกจากกรุ๊ปทัวร์ทันที หรืออาจจะเที่ยวตามโปรแกรมทัวร์จนครบกำหนดการ แต่เมื่อถึงวันเดินทางกลับก็หลบหนีออกจากโรงแรมที่พักเพื่อหาทางไปยังสถานที่ทำงานของนายจ้างชาวเกาหลี

ขณะที่ การทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีอย่างถูกต้องตามกฎหมายทำได้ 2 วิธี คือ

1. ภายใต้ระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) อนุญาตให้ทำงานได้ 5 กิจการคือ

1) กิจการอุตสาหกรรมการผลิต

2) กิจการเกษตรกรรม/ปศุสัตว์

3) กิจการก่อสร้าง

4) กิจการประมง

5) กิจการบริการ และ ต้องผ่านการทดสอบทักษะและภาษาเกาหลีก่อน จึงจะได้รับการจัดส่งรายชื่อให้นายจ้างเกาหลีคัดเลือกให้เข้าไปทำงาน

2. แรงงานต่างชาติประเภทช่างฝีมือ ซึ่งจะต้องได้รับอนุมัติหรือขอวีซ่าจากกระทรวงยุติธรรมสาธารณรัฐเกาหลี

พร้อมขอเตือนแรงงานไทยที่หลบหนีไปทำงานอย่างผิดกฎหมายจะไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายแรงงานและสวัสดิการใดๆ ทั้งจากการถูกโกงค่าแรง ทำร้าย รวมทั้ง กรณีเจ็บป่วย พิการหรือเสียชีวิต จะไม่ได้รับสวัสดิการใดๆ ต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ เอง ดังนั้น จึงขอให้แรงงานไทยอย่าหลงเชื่อผู้ที่ชักชวนให้ไปทำงานในต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย และไม่ให้กระทบต่อคนไทยที่ปฏิบัติถูกต้อง