ไม่พบผลการค้นหา
‘สมหมาย’ อดีต รมว.คลัง เสนอขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 9% ต้นปี 2564 หาเงินฟื้นเศรษฐกิจ หวั่นใช้เงินกู้อย่างเดียวจะมีปัญหาการเงินการคลังอีกในไม่ช้า แนะลดเงินเดือนข้าราชการด้วย

สมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จาก 7% เป็น 9% หรือเพิ่มขึ้น 2% ซึ่งจะทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น 1.2 แสนล้านบาท เพื่อนำไปแก้ปัญหาโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะการหวังใช้เงินกู้อย่างเดียวจะมีปัญหาการเงินการคลังในไม่ช้า โดยคาดว่าในปี 2564 สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะสูงเกิน 60% ต่อจีดีพี ซึ่งเกินกรอบความยั่งยืนการคลังที่กำหนดไว้

"เดือน ม.ค. 2564 รัฐบาลต้องขึ้นภาษีแวต เพราะไม่เช่นนั้นจะตายกันหมด เงินของประเทศไม่มีแล้ว จะกู้เงินอย่างเดียวประเทศก็พังเพราะหนี้สูงจนไม่มีเงินชำระหนี้ คนเข้าใจผิดว่าเศรษฐกิจไม่ดีไม่ควรขึ้นภาษี เพราะการเก็บภาษีไม่ได้มากองทิ้งไว้ แต่เก็บภาษีมารัฐบาลก็ใช้ออกไปเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และรัฐบาลไม่ต้องกลัวว่าขึ้นภาษีจะเสียคะแนนนิยม เพราะตอนนี้ก็ไม่มีใครนิยมรัฐบาลอยู่แล้ว" สมหมาย กล่าว

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า นอกจากการเก็บภาษีแล้ว รัฐบาลควรลดรายจ่ายประจำที่สำคัญ คือ การลดเงินเดือนข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มีจำนวนคนมากกว่างาน ยิ่งมีโควิด-19 ทำงานน้อยลงแต่ได้เงินเดือนเท่าเดิม ต่างจากบริษัทเอกชนที่ตอนนี้มีการลดรายจ่ายส่วนใหญ่ มีการลดพนักงานไปแล้วไม่น้อยกว่า 25% โดยรัฐบาลต้องแก้วิกฤตเศรษฐกิจแบบฉีกแนว อยู่แบบนี้ทำแบบเดิมไม่มีอะไรดีขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีควรตัดสินใจ เพราะถ้าไม่ทำ ประเทศก็อยู่ไม่ได้

ทั้งนี้ รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการเก็บภาษีจากทรัพย์สิน การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่ควรลดภาระจาก 100% เหลือ 10% ทำให้รายได้ของท้องถิ่นที่คาดว่าจะเก็บได้มากกว่า 1 แสนล้านบาท คาดว่าปีนี้จะเก็บได้ไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาท และควรปรับปรุงการเก็บภาษีมรดกที่ปัจจุบันการเก็บภาษีได้ปีหนึ่งร้อยกว่าล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมาก เพราะมีการแก้ไขกฎหมายทำให้การเก็บภาษีไม่ได้

ส่วนการลาออกของ 'ปรีดี ดาวฉาย' รมว.คลังคนล่าสุด อาจไม่รู้ว่าปริมาณงานในตำแหน่งมีมาก และต้องตัดสินใจตลอดเวลา ทำให้ไม่มีเวลาพักผ่อนจนทำให้มีปัญหาสุขภาพได้ นอกจากนี้ยังโดนการเมืองรับน้อง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งข้าราชการ และมีคนส่งหนังสือไปถึงกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้เซ็นลาออกจากตำแหน่ง ทั้งที่ ปรีดี ที่เป็นประธานกรรมการ ธ.ก.ส. ไม่รู้เรื่อง ทำให้ ปรีดี คิดว่าลาออกดีกว่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: