ไม่พบผลการค้นหา
'เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ' บุกทำเนียบจี้ 'ประยุทธ์' สอบผลขาดทุนจำนำข้าว ทวงถามคำอธิบายวิธีการจัดทำงบการเงิน อคส. และผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าว

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่มีข่าว ธ.ก.ส. ออกมาชี้แจงเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2561 โดยมีเรื่องการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวไม่มีเหตุสงสัยกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีการโต้แย้งคัดค้านในคณะกรรมการปิดบัญชีฯ อยู่ด้วยนั้น

นายเรืองไกร กล่าวว่า การปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวที่ ธ.ก.ส. กล่าวถึงนั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะยังมีเหตุที่ควรสงสัยว่า ข้อมูลการปิดบัญชีมีหลักฐานปรากฏอยู่ในงบการเงิน อคส. ว่าไม่ถูกต้อง และ สตง. ตรวจสอบแล้วก็ไม่รับรอง จึงต้องอธิบายให้สังคมรับทราบ

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า เป็นที่เข้าใจโดยทั่วไปแล้วว่า โครงการรับจำนำข้าวส่วนใหญ่มี อคส. หน่วยงานหลักที่ดำเนินการ ดังนั้น จึงต้องไปพิจารณาที่งบการเงินของ อคส. ว่าแสดงผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวไว้อย่างไร และเมื่อไปพิจารณางบการเงินของ อคส. ณ วันที่ 30 กันยายน 2557

โดยจะพบว่า สตง. ตรวจสอบแล้วไม่สามารถแสดงความเห็นได้ เหตุที่ สตง. ไม่แสดงความเห็นหรือไม่รับรองก็เพราะ สตง. ไม่สามารถตรวจสอบให้ได้หลักฐานที่เหมาะสมอย่างเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือจำนวน 143,419.82 ล้านบาท เนื่องจาก อคส. ไม่สามารถจัดหาเอกสารประกอบรายการที่เกี่ยวกับสินค้าคงเหลือและต้นทุนขายมาแสดงได้  

นอกจากตัวเลขที่ สตง. ระบุไว้แล้ว ในหมายเหตุประกอบงบการเงินของ อคส. ยังมีตัวเลขในการคิดค่าเผื่อจากการตีราคาสินค้า สำหรับข้าวสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์

ปรากฏให้เห็นอย่างประหลาดพิศดารอยู่ด้วย กล่าวคือ ข้าวปี 2556/2557 มูลค่า 121,822.78 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้าวปีใหม่ล่าสุด อคส. คิดค่าเผื่อฯไว้ 50,791.35 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 41.69 แต่ข้าวปี 2554/2555 มูลค่า 8,137.75 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้าวปีเก่าสุด กลับคิดค่าเผื่อฯไว้ 566.88 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 6.97 เรื่องนี้จึงผิดหลักการคิดค่าเผื่อฯ ทางบัญชีอย่างมาก เพราะตามหลักทั่วไป ข้าวใหม่ต้องคิดค่าเผื่อฯ น้อยกว่าข้าวเก่า  

ดังนั้นที่ตนเคยโต้แย้งว่า บัญชีโครงการรับจำนำข้าวไม่มีผลขาดทุนแสดงไว้ในงบการเงินแผ่นดิน จึงชอบแล้ว เพราะแม้แต่งบในหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเช่น อคส. ยังปิดบัญชีหาหลักฐานเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือและต้นทุนขายให้ สตง. ตรวจสอบรับรองไม่ได้ และการคิดค่าเผื่อก็ผิดหลักการทางบัญชี ย่อมเป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ได้ว่า ตัวเลขขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวที่มีการกล่าวอ้างและใช้กล่าวหาก่อนหน้านี้นั้น ไม่มีความถูกต้องและไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีอยู่จริง และไม่อาจนำไปใช้ในทางคดีใด ๆ ได้ 

แม้เวลาจะล่วงเลยไปบ้างแล้ว แต่ความจริงเรื่องของตัวเลขทางบัญชีก็ยังต้องคงอยู่ เรื่องนี้จึงต้องแจ้งให้นายกรัฐมนตรีได้รู้ด้วย และเมื่อเข้าใจแล้ว จะได้สั่งการตรวจสอบต่อไปได้อย่างถูกต้องเพราะที่ผ่านมาเป็นกรณีที่ไร้หลักการและหลักฐาน มีหลายฝ่ายนำตัวเลขที่ไม่ถูกต้องรายงานให้ทราบ

ดังนั้น ตนจะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้ตรวจสอบผลขาดทุนจำนำข้าวต่อไป ที่ศูนย์รับเรื่อง ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 1 ตุลาคม 2561 เวลา 10.00 น. นอกจากนี้ จะขอให้นายกฯ สั่งสอบข้อเท็จจริงเรื่องการจ่ายเงินตามใบประทวนของ ธ.ก.ส. ด้วย

อ่านเพิ่มเติม