ไม่พบผลการค้นหา
สธ. เผยภาพรวมสถานการณ์ไวรัสโคโรนาประจำวันที่ 1 ก.พ. พบผู้ติดเชื้อจำนวนเท่าเดิมคือ 19 คน ในจำนวนนี้หายดีกลับบ้านแล้ว 7 คน แจงพร้อมร่วมปฏิบัติการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับตัวคนไทยกลับจากอู่ฮั่น ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลเคร่งครัด

นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ว่า ภาพรวมในวันนี้ (1 ก.พ.2563) มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสฯ เท่าเดิมคือ 19 คน รักษาตัวในห้องแยกโรคในโรงพยาบาล 12 คน หายดีกลับบ้านแล้ว 7 คน

ขณะที่ ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 - 31 ม.ค. 2563 มีทั้งหมด 344 คน คัดกรองจากสนามบิน 39 คน มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 305 คน อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 70 คน ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และยังคงรับไว้ในห้องแยกโรคโรงพยาบาล 274 คน ขณะที่วันที่ 31 ม.ค. 2563 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่จำนวน 64 คน

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งคาดว่า สถานการณ์จะดีขึ้นด้วยความร่วมมือจากประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง "เช็คก่อนแชร์" งดแชร์ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์ และมาจากแหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/ และ Line@/เฟสบุ๊ค: รู้กันทันโรค,Coronavirus2019, กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประชาชนสามารถตรวจสอบข่าวลวงได้ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม www.antifakenewscenter.com

สธ. ร่วมภารกิจนำคนไทยจากอู่ฮั่นกลับประเทศ เน้นย้ำเฝ้าระวังต่อเนื่อง 14 วัน

ส่วนการเตรียมรับคนไทยที่เมืองอู่ฮั่นกลับประเทศไทย นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมหารือกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการรับคนไทยกลับประเทศ เพื่อการปฏิบัติการตามมาตรฐานแบบสากล

โดยย้ำว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการเตรียมการตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทาง และเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย ครอบคลุมทั้งเรื่องอุปกรณ์ที่จำเป็นในการปฏิบัติภารกิจ การประสานงานระหว่างทีมแพทย์ไทยและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การเตรียมการจุดคัดกรองเมื่อมาถึงสนามบินในประเทศไทย มีการตรวจคัดกรองผู้โดยสารทุกคนก่อนขึ้นเครื่อง และเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย

ในกรณีที่ตรวจพบผู้โดยสารมีอาการป่วยเข้าเกณฑ์ต้องเฝ้าระวังจะมีการลำเลียงไปยังโรงพยาบาลที่กำหนดด้วยมาตรฐานการควบคุมโรคสูงสุด ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการจะมีการตรวจคัดกรอง เฝ้าระวังโรคอย่างเข้มข้นโดยทีมแพทย์ ติดตามต่อเนื่องไปจนครบกำหนด 14 วัน  

ติดตาม 13 คน ที่สัมผัสแท็กซี่ป่วยไวรัสโคโรนา ตรวจหาโรคแล้ว

สำหรับกรณีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นชายไทย ซึ่งมีอาชีพขับรถแท็กซี่ที่ไม่มีประวัติเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แต่พบว่าป่วยตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. 2563 นั้น และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินเพิ่งเปิดเผยเมื่อวันที่ 31 ม.ค.นั้น น.พ.ธนรักษ์ ย้ำว่า ไวรัสโคโรนาเป็นโรคใหม่ การตรวจคนไทยที่เข้าข่ายติดเชื้อครั้งแรกผลเป็นเหมือนบวก แต่ผ่านไปสักระยะผลเป็นลบ ดังนั้นคนไทยที่ป่วยรายแรกไม่ได้ดูจากผลแล็บอย่างเดียว แต่ต้องตรวจซ้ำจนมั่นใจว่า ใช่แน่นอน ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ ทุกหน่วยงานได้มีการตรวจอย่างละเอียดจนสรุปได้ว่าเป็นเชื้อไวรัสโคโรนา

โดยจากการสอบสวนโรคจากแท็กซี่รายนี้พบว่ามีการรับนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในประเทศไทย แต่หลังจากแท็กซี่มีอาการป่วยแล้ว ก็ได้หยุดขับรถ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ผลการตรวจเชื้อของแท็กซี่รายนี้จะออกมา ทีมแพทย์ได้ติดตามผู้สัมผัสกับแท็กซี่รายนี้แล้วทั้งหมด 13 คน เป็นคนในครอบครัว 3 คน และคนอื่นๆ อีก 10 คน โดยเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งในลำคอตรวจแล้ว ไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใดทั้งนี้คนที่เป็นผู้โดยสารไม่ต้องกังวล เพราะแท็กซี่รายนี้หยุดขับรถเมื่อเริ่มมีอาการ

นพ.ธนรักษ์ ให้ความรู้เพิ่มเติมว่า คนไทยที่มีโอกาสเสี่ยงสูง ควรป้องกันตัวเอง เช่น ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ควรทำความสะอาดรถบ่อยๆ ล้างมือ และสวมใส่หน้ากากอนามัย เป็นต้น สำหรับคนไทยอื่นๆ ที่สำรวจตัวเองว่ามีโอกาสสัมผัสผู้ป่วยไวรัสฯ น้อยมาก ซึ่งบางพื้นที่ไม่มีคนจีนเข้าท่องเที่ยวเลย ก็ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ หากคนไทยที่สำรวจเองแล้วมีโอกาสติดเชื้อ เช่น มีน้ำมูก ไอ จาม ให้สวมหน้ากากและพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :