ไม่พบผลการค้นหา
กลายเป็นโยนความผิิดว่าสื่อปล่อยข่าวลวง และออกมายืนยันเพียงช่วงข้ามคืนว่ายังเข้มงวดคัดกรองผู้โดยสารที่ผ่านเข้าออกสนามบิน วอยซ์ออนไลน์เปิดคำต่อคำและลำดับเหตุการณ์ให้ข่าวที่เหมือนไม่กำหนดทิศทางของรัฐบาลนี้ไว้ในสกู๊ปชิ้นนี้แล้ว เชิญอ่าน....

วันที่ 24 ม.ค. ผู้สื่อข่าวหลายสำนักทั้งไทยและต่างประเทศได้รับเชิญจากกรมควบคุมโรค เพื่อไปสังเกตการณ์การคัดกรองผู้โดยสารขาเข้า ณ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีเจ้าหน้าที่คือ นายแพทย์โรม บัวทอง เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำท่าอากาศยาน คอยให้คำอธิบายแก่สื่อมวลชนที่เข้าร่วมทำข่าว อันเป็นที่มาของการสรุปเมื่อวันที่ 24 ม.ค. และรายงานออกไปว่า ท่าอากาศยานของไทยยกเลิกการใช้เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ หรือ Thermoscan เพราะไม่จำเป็นต้องคัดกรองด้วยเครื่องดังกล่าวเนื่องจากไม่มีเที่ยวบินจากอู่ฮั่นแล้ว 

ผู้สื่อข่าว: ตอนนี้ไม่มีไฟลต์จากอู่ฮั่น แล้วเราทำการเช็กอยู่ไหมคะ

นายแพทย์โรม: ตอนนี้....ต่อไปเราก็ต้องทำ เวลาที่เราทำเราก็ต้องดูว่าเมืองไหนที่มี Local transmission คือมีการระบาดในชุมชน ในเมืองนั้นๆ อู่ฮั่นนี่ชัดเจนถูกไหมครับ ดังนั้นเราเลยคัดกรองผู้โดยสาร Direct Flight (บินตรง) จากอู่ฮั่น ส่วน Transit (เดินทางโดยการต่อเครื่องบิน) คนชอบถามเยอะมากว่า Transit Flight ที่มาจากอู่ฮั่นเราเช็กยังไง เราก็ได้ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ช่วย ถ้าใครที่ไม่ได้ผ่านการคัดกรองตรงนี้ เช่น ผ่านเมืองนั้นเมืองนี้ นึกสภาพเนอะ คือทรานสิตที่โน่นที่นี่ เราก็จะให้พี่ ตม. เขาช่วย ถ้า ตม.เจอผู้โดยสารที่มาจากเมืองอู่ฮั่น เขาก็จะส่งกลับมาให้ที่ด่านควบคุมโรคเช็กอีกทีนึง ก็คือสองสเต็ป นึกสภาพออกไหม คือ Direct Flight โอเค (ผายมือไปทาง ตม.) ก่อนจะผ่านเข้าเมืองได้

ผู้สื่อข่าว: ตอนนี้ได้ข่าวว่าที่สุวรรณภูมิไม่ใช้ Thermoscan แล้ว

นายแพทย์โรม: ประเด็นคือ Thermoscan เราใช้สำหรับ Mass Screening แต่ว่าจะมีบางส่วน ผู้โดยสารจากประเทศจีนเยอะมาก ที่สุวรรณภูมิ เอาว่าเป็น Majority เลยดังนั้นถ้าเป็น Transit เราต้องใช้วิธีนี้ คือทาร์เก็ตว่าผู้โดยสารมาจากแหล่งโรคระบาดหรือเปล่า และเราก็คัดกรองต่อ ถ้าเราทำ Mass Screening (การคัดกรองกลุ่มคนขนาดใหญ่) เหมือนกับของสิงคโปร์ หมายความว่าทุกไฟลท์ทำหมด อันนี้ก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไร อาจจะ catch ผู้ป่วยไม่ได้เลย จะสังเกตว่าการ catch Mass แบบนี้ Thermoscan มันต้องเพิ่มสององศาเซลเชียล แต่แบบนี้ (ผายมือไปทาง ตม.) เราทำได้ดีกว่า เพราะเราเพิ่มแค่ 1 องศาเซลเซียส เราใช้ manpower (เจ้าหน้าที่) ในการเช็คอีกทีนึง ถ้าผู้โดยสาร 38.0 องศาเซลเซียสหลุดแน่นอน

ผู้สื่อข่าว: ขอสรุปอีกทีได้ไหมคะ คือตอนนี้ไฟลต์อะไรที่เราเช็ก ที่เราจัดลำดับความสำคัญในการเช็คอยู่

นายแพทย์โรม: ประเด็นก็คือว่า ถ้าเป็นไดเรกต์ไฟลต์ เราใช้ Thermoscan ตอนนี้เราให้ที่ตม.ช่วยเช็กให้เราด้วย เช็กจากอู่ฮั่นน่ะค่ะ

ผู้สื่อข่าว: ตั้งแต่ไฟลต์จากอู่ฮั่นแล้วต้องส่ง...

นายแพทย์โรม: เวลาการเดินทางเข้าประเทศ มีทั้งไดเรกต์ไฟลต์ (บินตรง) และก็มีทั้งทรานสิต (บินแบบต่อเครื่อง) ถูกไหมจ๊ะ ปัญหาที่หนูถามคือทรานสิตไฟลต์ ถูกไหม

ผู้สื่อข่าว: ไม่ใช่

นายแพทย์โรม: ถามว่า

ผู้สื่อข่าว: ตั้งแต่อู่ฮั่นยกเลิก (การเดินทาง) ตอนนี้เราใช้ Thermoscan อยู่ไหมคะ วันนี้น่ะค่ะ

นายแพทย์โรม: อ๋อ วันนี้ยังค่ะ

ผู้สื่อข่าว: แล้วเราจะเริ่มใช้ตอนไหน

นายแพทย์โรม: น่าจะเป็นหลังจากที่เราประชุม วันนี้ (24 ม.ค.) เราประชุมกับการท่าอากาศยาน และพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) ทางกรม (ควบคุมโรคติดต่อ) จะประชุมกันอยู่ ว่าพื้นที่ไหนเป็นพื้นที่เสี่ยงเราต้องลำดับต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องถามไปยัง WHO - World Health Organization ว่าพื้นที่ไหนจะเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อไป ที่มี Local Transmission (การระบาดในท้องถิ่น)

ผู้สื่อข่าว: ก็คือตอนนี้ยังไม่ได้ใช้ Thermoscan

นายแพทย์โรม: ใช่ เรายังไม่ใช้ เราใช้คน เรายังไม่ได้ใช้เลย แต่ว่าเราจะใช้สำหรับคนแสกนก่อน

ผู้สื่อข่าว: หมายถึงว่าเมืองอื่นๆ ที่ไม่ใช่มีรายงานจากประเทศจีนว่ามีการแพร่ระบาด เราจะใช้วิธี....

นายแพทย์โรม: เมืองอื่นบนโลกใบนี้เป็นแค่อิมพอร์ต - import case หมดเลย หมายความว่ารับเชื้อมาจากอู่ฮั่น และเข้ามาติดเชื้อในประเทศ แต่ไม่มีการระบาดในประเทศ การระบาดในประเทศคือมีคนมาแพร่เชื้อต่อ คนที่สอง สาม สี่ ห้า แบบนี้เขาเรียกว่าเป็นการระบาด

ผู้สื่อข่าว: เข้าใจค่ะ คืออย่างงี้ หมายความว่า คนที่มาถึงตอนนี้ที่มาจากประเทศจีนส่วนใหญ่ใช้วิธีไหนเช็ก อธิบายให้ฟังนิดนึงได้ไหมคะ

นายแพทย์โรม: เราไม่ได้เช็กแบบ Mass - all city china อันนี้เคลียร์ไหม เพราะว่าเมืองต่างๆ มันไม่ได้มีการระบาด เช่น เมืองปักกิ่งยังไม่มีการระบาด เมืองต่างๆ ยังไม่มีการระบาด ดังนั้นเราก็ไม่คัดกรองอยู่แล้ว ถ้าไม่มีการระบาด

ผู้สื่อข่าว: คือ incubation period (ระยะฟักตัวของเชื้อโรค) ของไวรัสตัวนี้คือ 7- 14 วัน ด้วยใช่ไหมคะ

นายแพทย์โรม: ใช่ค่ะ

ผู้สื่อข่าว: ทีนี้ถ้าคนจากอู่ฮั่นเข้าเมืองปักกิ่ง ฯลฯ

นายแพทย์โรม: นั่นแหละ ตรงนั้นแหละ ที่อาจารย์พูดถึงโมเดลสองก็คือ

ผู้สื่อข่าว: คือถ้าเข้ามาในช่วงตรุษจีนมีการสกรีนยังไง

นายแพทย์โรม: ใช่แล้ว ทุกคนต้องผ่าน ตม.ถูกไหมจ๊ะ ดังนั้น ตม.ต้องช่วยเราอยู่แล้ว ใครที่มาจากอู่ฮั่น ก่อนเข้าประเทศ เขาต้องส่งมาที่เราก่อน งงไหมจ๊ะ ไม่งงสิ เพราะว่าก่อนที่จะก่อนที่จะผ่าน ตม.ได้ เขาจะต้องให้ผ่านเราก่อน เราเช็กก่อนว่ามีการเจ็บป่วยไหม งงไหมเนี่ย

ผู้สื่อข่าว: งง

นายแพทย์โรม: ก็หนูไม่เข้าใจกระบวนการเข้าประเทศไง

ผู้สื่อข่าว: อาจารย์ หนูเข้าใจกระบวนการเข้าประเทศ หนูหมายถึงว่าระยะฟักตัวของเชื้อโรค ผู้โดยสารบางคนอาจจะไม่เกิดอาการ

นายแพทย์โรม: อ๋อ หนูจะถามว่า....โอเค ตะแกรงมี 3 ชั้น ชั้นที่พวกเรากำลังดูคือตะแกรงชั้นที่ 1 ชั้นที่ 1 เรากรองคนป่วยที่เดินทาง ถูกไหม ตะแกรงที่ 1 จะกรองคนที่ติดเชื้อไม่ได้เพราะเขาอาจจะติดมาแล้วยังไม่แสดงอาการ อยู่ในช่วง incubation period (ระยะฟักตัวของโรค) เขาก็อาการปกติ ถูกไหมจ๊ะ อาการปกติ ดังนั้น ต่อให้ใช้ Thermoscan หรือตรวจร่างกายเขาก็ไม่เจออยู่แล้ว การคัดกรองที่สนามบินคือคัดกรองคนที่มีอาการป่วยที่เดินทางมากับเครื่องบิน เราจะทำยังไงคัดคนเหล่านี้ได้ ไม่ให้เขาแพร่เชื้อต่อในประเทศ งงไหม ใครไม่เข้าใจยกมือ ตะแกรงแรกเราต้องคัดกรองผู้โดยสารที่มีอาการป่วย ป่วย มีไข้ มีอาการทางเดินหายใจ เพราะกลุ่มนี้จะแพร่เชื้อระหว่างบนเครื่อง แพร่เชื้อในสนามบิน แพร่เชื้อต่อไป ถ้าเราคัดกรองไม่ได้

ผู้สื่อข่าว: แล้วตอนนี้ไม่ได้กรอง (คนป่วย มีไข้ เพราะไม่ได้ใช้ thermoscan)

นายแพทย์โรม: ก็ผู้โดยสารจากอู่ฮั่นไม่มาแล้วไงคะ

ผู้สื่อข่าว: แต่ทีนี้ในเมื่องอื่นของประเทศจีนก็อยู่ในความเสี่ยง รัฐบาลจะมีมาตรการอย่างไร

นายแพทย์โรม: ข้อมูลเราต้องฟังจาก World Health Organization ว่าเขารีพอร์ตมายังไง ทางการจีนรายงานมายังไง ว่าพื้นที่ไหนบ้างจะเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดในเมือง

ผู้สื่อข่าว: คือเรารอจากเขาอย่างเดียวใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นผู้โดยสารจากเมืองอื่นๆ จากประเทศจีนก็ยังไม่ต้องผ่านการคัดกรอง

นายแพทย์โรม: ผู้โดยสารก็ผ่านการคัดกรองด้วยอาการเจ็บป่วยไงครับ ถ้าเขามีอาการเจ็บป่วย มันเป็นการมองด้วยอาการเจ็บป่วย เมื่อเราเห็นแล้ว เขาต้องได้รับการตรวจ ว่าเขามาจากพื้นที่เสี่ยงหรือเปล่า

ผู้สื่อข่าว: ผู้เจ็บป่วยคือจากทุกประเทศเลยไหมที่ต้องคัดกรองโดยตะแกรงแรก

นายแพทย์โรม: ตะแกรงนี้คือจากอูฮั่น ถามหน่อยสิงคโปร์มีเคสอิมพอร์ต ฮ่องกงมีเคสอิมพอร์ต ไต้หวันมีเคสอิมพอร์ต หนูจะนับเมืองเหล่านั้นเป็นเคสระบาดหรือเปล่า แค่หนึ่งเคสอิมพอร์ตนะ

ข่าวสารที่ตามมาในวันที่ 25 ม.ค. ก็คือ เพจกรมควบคุมโรคได้โพสต์ข้อความยืนยันอีกครั้งว่า "น่าจะเข้าใจคลาดเคลื่อนจากการที่เมื่อวานมีประกาศหยุดเที่ยวบินตรงจากอู่ฮั่นมาประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข ยังคงทำมาตรการคัดกรองเข้มอยู่ และพรุ่งนี้จะเริ่มการคัดกรองเที่ยวบินที่มาจากเมืองอื่นๆ ที่มีรายงานการระบาด เช่น กวางโจว"


25-1-2563 9-58-06.jpg

อย่างไรก็ตาม มีความเคลื่อนไหวจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยยืนยันว่าทางกระทรวงที่นายอนุทินรับผิดชอบนั้น ยังควบคุมสถานการณ์โรคไวรัสโคโรนาได้ ที่ควบคุมไม่ได้คือการปล่อยเฟกนิวส์ ทำให้ผู้คนตื่นตระหนก ขอให้ฟังข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขที่เดียวเถิดครับ จะได้สบายใจกันในช่วงตรุษจีน


25-1-2563 10-04-01.jpg

ต่อมาได้โพสต์ข้อความอีกว่า "ก็วันนี้เขายกเลิกไฟล์ทจากอู่ฮั่นแล้ว สนามบินจะตั้งเครื่องตรวจคนไข้ ที่ GATE ของไฟล์ทนี้หาสวรรค์วิมานทำไมล่ะคร้าบ คิดนิดนึงก่อนว่ากล่าวกันนะ ตอนนี้ยังควบคุมสถานการณ์ได้อยู่"


25-1-2563 11-48-34.jpg

ทั้งนี้ ภายหลังนายอนุทิน โพสต์ข้อความได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้าไปแสดงความคิดเห็นเชิงตั้งคำถาม ถึงการเตรียมการของรัฐบาล เนื่องจากการสื่อสารที่มีความขัดแย้งกันระหว่างในกระทรวงเดียวกัน โดยเฉพาะประเด็นการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ ขณะที่บางรายมองว่าการแสดงความคิดเห็นของนายอนุทิน ไม่เป็นผลบวกเนื่องจากมีผู้ติดเชื้อในประเทศไทยแล้ว 5 ราย ควรมีการป้องกันและสื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจน ไม่ใช่การออกมาบอกว่าคุมได้เท่านั้น 

คำถามจากผู้ใช้โซเชียลมีเดีย และแฮชแท็กทวิตเตอร์ที่ขึ้นอันดับ 1 วันนี้ #รัฐบาลเฮงซวย ถ้ายังพอเป็นสิ่งที่รัฐบาลสนใจฟังอยู่บ้าง ก็คงเป็นโอกาสที่รัฐบาลซึ่งต้องรับผิดชอบชีวิตประชาชนหลายสิบล้าน ได้ทบทวนกระบวนการให้ข่าวและบริหารการสื่อสารว่า "มีทิศทางหรือไม่"

ขณะเดียวกันในช่วงเย็นวันที่ 25 ม.ค. ก่อนที่จะมีการเรียกประชุม 3กระทรวงหลักเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 'อนุทิน' ยังคงยืนยันกับสื่อมวลชนที่ จ.บุรีรัมย์ ถึงความจำเป็นการในการตั้งศูนย์วิกฤตแก้ปัญหาการระบาดไวรัสโคโรนาหรือไม่ ว่า ตอนนี้ยังไม่วิกฤต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ก็ยืนยันว่าไม่ต้องประกาศฉุกเฉิน ดังนั้น คนไม่มีหน้าที่ไม่ต้องไปแนะนำ ขอให้มั่นใจเราไม่มีการปิดข้อมูลปรุงแต่งข้อมูล พูดให้ทุกคนได้รับทราบได้มากที่สุด จึงขอให้ทุกคนวางใจได้

นายอนุทิน ยังย้ำว่า ขอให้ประชาชนใช้ชีวิตปกติในประจำวัน กินร้อนช้อนกลางล้างมือทำให้เป็นนิสัย และไม่ควรอยู่ในชุมชนแออัด หรือสถานที่ที่ไม่สะอาด อย่าเพิ่งไปเที่ยวประเทศจีนตอนนี้ จะช่วยลดการตื่นตระหนกลดผู้ป่วยได้ ในวันที่ 26 ม.ค. ตนก็เรียกประชุม 3 กระทรวงที่ตนดูแลอยู่ก็ควรจะบูรณาการกันเพื่อต่อสู้กับโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทั้งนี้ขอให้มองว่าไวรัสนี้ก็เหมือนโรคหวัดโรคหนึ่ง การทำตัวให้เหมือนคนเจอหวัดก็อย่าไปสัมผัสหรือทานอาหารร่วมกัน ให้ใช้ชีวิตตามปกติ อย่าไปสัมผัสซากสัตว์ตายแล้ว พร้อมขอให้อย่าไปกินอาหารที่ผิดปกติ โดยเฉพาะค้างคาว กบ กระต่าย ซึ่งตอนนี้เป็นการตื่นตระหนก

อ่านเพิ่มเติม