สำนักข่าวซินหัวของรัฐบาลจีนรายงานระบุว่า เจียงเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และอวัยวะหลายส่วนล้มเหลว ณ นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อเวลา 12.13 น.ตามเวลาท้องถิ่น

ก่อนหน้านี้ที่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 เมื่อช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ในการเลือกให้ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคต่อในวาระที่ 3 มีรายงานว่า เจียงไม่ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมครั้งดังกล่าว ซึ่งมีการเปิดเผยว่าเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ

เช่นเดียวกันกับการฉลองครบรอบอายุพรรคคอมมิวนิสต์จีน 100 ปีที่จัดขึ้นเมื่อปีก่อน ที่เจียงก็ไม่ได้เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมเช่นกัน ส่งสัญญาณว่าสุขภาพของอดีตประธานาธิบดีจีนกำลังถดถอยลงไปเรื่อยๆ 

เจียงปรากฏตัวต่อสาธารณชนล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2562 โดยขณะนั้น เจียงได้รับเชิญในฐานะผู้อาวุโสของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อการฉลองครบรอบการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งภายในงานมีการจัดขบวนพาเหรดทางการทหารครั้งใหญ่

เจียงเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนระหว่างปี 2532 ถึง 2545 และเป็นผู้นำคนแรกของจีนคอมมิวนิสต์ ที่ไม่เคยเข้าร่วมการต่อสู้การปฏิวัติคอมมิวนิสต์ของ เหมาเจ๋อตุง ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังชัยชนะจากสงครามกลางเมืองเมื่อปี 2492

เจียงมีฐานอำนาจพรรคมาจากพื้นที่เซี่ยงไฮ้ เมื่อครั้งเขาขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2532 จีนกำลังประสบกับวิกฤตทางการเมือง หลัง เติ้งเสี่ยวผิว อดีตประธานาธิบจีน สั่งปราบปรามผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยบริเวณจัตุรัสเทียนอันเหมิน จนก่อให้เกิดเหตุนองเลือด ยังผลให้ประชาคมโลกประกาศคว่ำบาตรและประณามจีนอย่างรุนแรง

อย่างไรก็ดี เจียงบริหารจีนในยุคที่ท้าทายกับอำนาจของโลกตะวันตกมากที่สุดอีกยุคหนึ่ง โดยในช่วงปี 2540 ตรงกันกับวาระการมอบเกาะฮ่องกงจากสหราชอาณาจักร กลับคืนสู่จีนแผ่นดินใหญ่อีกครั้ง นอกจากนี้ในปี 2544 จีนยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) ในปีเดียวกันนี้เอง จีนได้รับการเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2551 อีกด้วย

เจียงตัดสินใจลงจากอำนาจด้วยความสมัครใจ เมื่อปี 2545 เพื่อส่งต่อตำแหน่งเลขาธิการพรรคให้แก่ หูจิ่นเทา อดีตประธานาธิบดีจีน นับเป็นการเปลี่ยนผ่านอำนาจของจีนอย่างสงบสุขไม่นองเลือดเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่หลังการก่อตั้งประเทศมา

เจียงเป็นที่จดจำในฐานะประธานาธิบดีจีนที่มีเสน่ห์และความมั่นใจ ต่างจากประธานาธิบดีจีนคนอื่นๆ ที่มีท่าทีแข็งกร้าวและยากที่จะเข้าใจ ในช่วงวัย 71 ปี เจียงถูกพาดหัวข่าวหลังเขากำลังว่ายน้ำและเล่นโอคูเลเล่ในฮาวาย พร้อมกันกับแสดงความสามารถในการขับร้องงิ้ว ขณะเดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2540 

ในการให้สัมภาษณ์โดย ไมค์ วอลเลซ จากรายการ 60 Minutes เมื่อปี 2543 เจียงได้ตอบคำถามในประเด็นที่เป็นข้อขัดแย้ง รวมทั้งเหตุการณ์การปราบปรามเทียนอันเหมินในปี 2532 คดีสอดแนมที่เกี่ยวข้องกับนักวิทยาศาสตร์ชาวไต้หวัน เหวินโฮลี และความตึงเครียดบริเวณช่องแคบไต้หวัน โดยเจียงสลับการพูดระหว่างภาษาจีนและอังกฤษอย่างง่ายดายตลอดการให้สัมภาษณ์