ไม่พบผลการค้นหา
คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง ม.เกริก สับภาวะการสื่อสารในช่วงวิกฤตโควิด-19 ของนายกฯบุคลิกภาพสื่อสารผ่านแถลงการณ์ไม่ผ่าน ทำให้ประชาชนหดหู่ แนะให้สื่อสารเป็นเอกภาพในภาวะวิกฤต เสนอ 3 มาตรการแก้ปัญหา จัดทำแอปพลิเคชันเข้าถึงหน้ากากอนามัย -การตรวจหาเชื้อ-คัดกรองต่างชาติต้องเข้ม

รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ให้สัมภาษณ์กับ ‘วอยซ์ออนไลน์’ ถึงการสื่อสารในภาวะวิกฤตของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กรณีสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ว่ารู้สึกน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าผู้คนทั่วไปตั้งใจที่จะฟังว่ารัฐบาลจะมีแนวทางช่วยเหลือผู้คนในภาวะวิกฤตนี้อย่างไร แต่สิ่งที่นายกรัฐมนตรีแถลงกลับไม่ได้สร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชน ตรงกันข้ามกลับทำให้ประชาชนหดหู่มากยิ่งขึ้น เริ่มต้นจากบุคลิกภาพของท่านนายกฯ ที่ออกแถลงด้วยชุดเครื่องแบบสีกากี ซูบผอม อิดโรย ตาลอย ดูจากบุคลิกแล้วไม่ได้ทำให้ประชาชนมีขวัญกำลังใจมากขึ้นเลย ทั้งนี้ ประชาชนที่ดูอยู่ทางโทรทัศน์อาจจะรู้สึกว่านายกฯ คงจะต้องไปช่วยตัวเองให้รอดก่อนจะช่วยประชาชน บุคลิกไม่เข้มแข็งดูแล้วไม่ได้สร้างความมั่นใจ ดังนั้น บุคลิกภาพไม่ผ่านอยู่แล้ว

ส่วนเนื้อหาที่แถลงการณ์เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ให้ประชาชนรับทราบนั้นในเวลา 5 นาทีด้วยการบอกให้ประชาชนจะต้องกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกมาแนะนำได้ ไม่ใช่เรื่องที่นายกฯ จะออกมาพูดด้วยการรายงานสถิติคนติดเชื้อโควิด-19 คนป่วย คนเสียชีวิต ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของนายกฯ สิ่่งที่รัฐบาลควรจะสื่อสารในภาวะวิกฤตเช่นนี้ให้ประชาชนทราบ ไม่ใช่บอกให้ประชาชนอย่าไปรวมกลุ่มกันอย่าเชื่อเฟกนิวส์ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

ประยุทธ์ โควิด โคโรนา 20-17BB-4BEC-8E82-D041EE582FA4.jpegประยุทธ์-โควิด19

ติงลั่นประเทศชนะ แนะสื่อสารให้เป็นเอกภาพไม่ขัดแย้ง

"ที่นายกฯบอกว่าประเทศไทยต้องชนะ ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะชนะอะไร ถ้ารัฐบาลไม่มีมาตรการอะไรออกมาช่วยเลย ความหวังของคนไทยจะพังไปทันทีที่นายกฯออกมาแถลงการณ์ สิ่งที่ท่านนายกฯควรจะสื่อสาร อย่างแรกเลยก็คือการสื่อของรัฐบาลควรมีเอกภาพ แต่ละหน่วยงานไม่ควรออกมาพูดคนละอย่างสองอย่าง พูดแล้วขัดแย้งกัน และคนที่จะออกมาให้ข่าวเป็นคนที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงและชัดเจน ประการที่สองข้อมูลต่างๆจะต้องชัดเจนไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ซึ่งรัฐบาลทำให้ประชาชนสับสนเอง เฟกนิวส์ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากคนอื่นเลยแต่เกิดมาจากหน่วยงานภาครัฐที่ไม่ได้ประสานงานกันและไม่มีความชัดเจนในมาตรการ"

ชงรัฐบาลผุดแอปฯแจ้งประชาชนแจ้งพิกัดหาซื้อหน้ากากอนามัย - แอลกอฮอล์

รศ.ดร.นันทนา ระบุว่า ขณะเดียวกัน รัฐบาลควรจะออกมาตรการที่ช่วยเหลือประชาชน 1.รัฐบาลควรจะมีแอปพลิเคชันที่จะแจ้งข่าวสารกับประชาชนว่าจะเข้าถึงหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ จะสามารถไปซื้อได้ที่ไหนในราคาที่เป็นธรรม รัฐบาลพูดแต่ว่าไม่ขาด แต่เราไม่เคยหาซื้อได้เลย ถึงซื้อได้ก็มีราคาแพงมาก เพราะฉะนั้นควรจะทำแอปพลิเคชันให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างง่ายๆ 

2.ควรจะช่วยค่าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชน รัฐบาลควรออกงบประมาณซึ่งไม่ได้มากมายนัก ถ้าตรวจพบก็จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย 

3.มาตราการด้านการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศไทย เราไม่เห็นว่ารัฐบาลทำอะไรกับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามา ที่พบว่าเขาป่วยคือหลังจากที่เขาไปหาหมอเอง ซึ่งอันตรายมากต่างประเทศถึงขนาดปิดประเทศกันแล้ว แต่ประเทศไทยคัดกรองอย่างไรไม่รู้ ไม่มีมาตรการที่จะบอกว่าจะดำเนินการยังไงกับบรรดาชาวต่างชาติเหล่านั้น มาตรการกักตัวสถานที่และอุปกรณ์ควรจะเตรียมให้พร้อม 

"จะกักตัวใครบ้างให้มีความชัดเจนด้วย และที่สำคัญต้องดำเนินการมาตรการขั้นเด็ดขาดกับผู้ที่กักตุนสินค้าที่เป็นของจำเป็น จากข่าวที่เห็นรู้สึกสลดใจเป็นอย่างยิ่งกับการกักตุนหน้ากากอนามัย กระทำโดยบุคลากรภายในของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลง และรัฐบาลไม่ดำเนินการอะไรเลยกับการที่ทราบข่าวว่ามีการกักตุน ส่งหน้ากากไปขายต่างประเทศ ควรจะเด็ดขาดเพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งนี่คือสิ่งที่อยากจะฝากเอาไว้กับรัฐบาลในการสื่อสารทางการเมืองในภาวะวิกฤตโควิด-19" รศ.ดร.นันทนา ระบุ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง