ไม่พบผลการค้นหา
ภายหลังศาล รธน. วินิจฉัยว่า 'รัฐสภา' มีอำนาจจัดทำร่าง รธน.ใหม่ได้ แต่ต้องทำประชามติก่อนและหลังร่างรัฐธรรมนูญใหม่แล้วเสร็จนั้น 'ไพบูลย์' ย้ำกระบวนการโหวตร่างแก้ รธน.คว่ำแล้ว หลังศาล รธน.ตีความต้องประชามติถามประชาชนก่อนจะให้จัดทำร่าง รธน.หรือไม่ ปัดยื้อเวลาแก้ รธน. ลั่นถ้าเดินหน้าโหวตวาระ 3 พร้อมโหวตคว่ำหรือไม่ร่วมโหวต หวั่นขัด รธน.

วันที่ 11 มี.ค. ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยกับ 'วอยซ์' ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีความชัดเจนว่า ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องให้ประชาชนลงประชามติเสียก่อน ด้วยการถามว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญยังวินิจฉัยว่า รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้น การที่รัฐให้อำนาจสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น จึงขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ จะต้องทำโดยรัฐสภาเท่านั้น เนื่องจากเป็นหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา 

ไพบูลย์ กล่าวว่า กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทำอยู่ขณะนี้ เมื่อยังไม่มีการออกเสียงประชามติ ไม่มีการถามประชาชนว่าประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ จึงเท่ากับขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น กระบวนการที่แล้วมาจึงต้องตกไป และหากจะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็จะต้องเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด โดยการทำประชามติก่อน และการจะทำประชามติได้นั้น ต้องรอให้ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ประกาศใช้เสียก่อน 

ไพบูลย์ พลังประชารัฐ ประชุมสภา_201117_9.jpg

สำหรับการเรียกประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ที่คาดว่าจะมีการโหวตวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไพบูลย์ กล่าวว่า คาดว่า ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จะแจ้งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อที่ประชุม โดยคาดว่าจะมีการอภิปรายว่าจะสามารถโหวตวาระ 3 ได้หรือไม่ ซึ่งอาจจะมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ส่วนตัวเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นถือว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่แล้วมาเป็นอันตกไป ไม่สามารถที่จะพิจารณาต่อได้ 

"ถ้ามีการโหวตวาระ 3 จริง ผมโหวตไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว หรือไม่ผมก็จะไม่ร่วมด้วย เพราะถ้าร่วมก็เท่ากับขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชารัฐก็เชื่อว่าจะเห็นด้วยกับมุมมองของผมที่เป็นฝ่ายกฎหมาย" 

ไพบูลย์ กล่าวว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับจากนี้ไปจะไม่ง่ายแล้ว โดยต้องให้สมาชิกรัฐสภาเป็นผู้จัดทำ ไม่ต่างอะไรกับการแก้ไขเป็นรายมาตรา ยืนยันว่าไม่ใช่การยื้อเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้โดยง่าย หากแก้ไขเป็นรายมาตรฐาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง