ไม่พบผลการค้นหา
"สิระ" เตรียมฟ้องหมิ่นประมาท "เสรีพิศุทธ์" กล่าวหาเป็น ส.ส.เศษสวะ พร้อมควง "ปารีณา" ยื่นประธานสภาฯ เพิกถอนมติ กมธ.ป.ป.ช. เชิญ "ประยุทธ์-ประวิตร" แจงปมถวายสัตย์ฯ เป็นครั้งที่ 4

ที่รัฐสภา นางสาวปารีณา ไกรคุปต์, นายสิระ เจนจาคะ พร้อม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐจำนวนหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้เพิกถอนมติของ คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร หรือ กมธ.ป.ป.ช. ที่มีพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธาน ในกรณีมีมติเชิญพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงปมถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ เป็นครั้งที่ 4 

โดยนายสิระ เห็นว่า การลงมติดังกล่าวขัดต่อข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ข้อ 90 เพราะเป็นเรื่องของ ส.ส.ทั้งสภาได้มีการพิจารณาไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้ กมธ.ทั้งคณะมีความผิดตามกฎหมาย และการทำหน้าที่ที่ผ่านมาในวันลงมติ 6 ต่อ 3 นั้น ตัวเองได้ขอดูเอกสารที่ทางพลเอกประยุทธ์และพลเอกประวิตรชี้แจงมา ว่า ครบถ้วนหรือไม่เพื่อประกอบการใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาว่าควรจะเรียกทั้งสองคนมาชี้แจง หยุดหรือไม่หรือควรยุติเรื่องไป แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ในฐานะประธาน บอกว่าไม่จำเป็นต้องดูและยังเห็นว่าการทำหน้าที่ประธาน กมธ. เข้าข่ายผิดข้อบังคับหลายอย่างการชี้หน้านางสาวปารีณาและมาแถลงข่าวประจานต่อสื่อมวลชนด้วย 

พร้อมทั้งยังขอให้สังคมช่วยตัดสินว่า การพยายามเรียกพลเอกประยุทธ์มาชี้แจงหลายครั้ง ทั้งที่ซ้ำซ้อนกับรัฐสภาได้พิจารณาไปแล้วนั้น เป็นการแก้แค้นส่วนตัวของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เองหรือไม่ เพราะแทนที่จะเอาเวลาไปให้ความสำคัญในเรื่องของการปราบปรามการทุจริตกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่โกงภาษีประชาชน และประพฤติมิชอบรังแกประชาชน กลับใช้เวลาอันมีค่าของประชาชน มาเป็นเรื่องส่วนตัวหรือชำระแค้นส่วนตัวหรือไม่ด้วย ซึ่ง ส.ส.ในสัดส่วนฝ่ายรัฐบาลใน กมธ.ฯ ก็ต่างอึดอัดใจกับการทำหน้าที่ของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์

นอกจากนี้ ยังเปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะดำเนินคดีทางอาญาฟ้องศาลเพื่อเอาผิด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ฐานหมิ่นประมาทตัวเอง ที่หาว่าตัวเองซื้อเสียง หรือเป็น ส.ส.เศษสวะ โดยยืนยันว่า ตัวเองเป็นผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติที่ประชาชนเลือกมา และการเป็น ส.ส.ไม่จำเป็นต้องรู้กฎหมาย ทุกคนอย่างที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ชอบ ดูหมิ่นคนอื่น เพราะ การเป็นส.ส. มาทำหน้าที่ใน กมธ. นั้นต้องมีความหลากหลาย และไม่ใช่ทนายความ, อัยการ, ผู้พิพากษาหรือนิติกร ที่จำเป็นต้องรู้กฎหมาย แต่ยืนยันว่า ทุกคนต่างรู้ข้อบังคับ การประชุมดีอยู่แล้ว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง