ไม่พบผลการค้นหา
ผอ.เขตจตุจักรเผยบริษัทอิตาเลียนไทยฯ ต้องจ่ายค่าเสียหายความผิดทางแพ่งอีก 1.7 แสนบาท กรณีตัดต้นไม้ 14 ต้น หน้าม.เกษตรฯ ขีดเส้นชำระเงินภายใน 7 วัน

นายปกครอง พลเมือง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร เปิดเผยว่า ตัวแทน บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับผิดชอบโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต สะพานใหม่ คูคต) ได้มาเสียค่าปรับกรณีตัดต้นไม้ 14 ต้น หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้วเมื่อเย็นวันนี้ ( 5 มี.ค. 2561 ) เป็นเงิน 28,000 บาท ซึ่งคิดอัตราสูงสุด ตามความผิดมาตรา 27 พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 

นอกจากนี้ บ.อิตาเลียนไทยฯ ยังมีความผิดทางละเมิด ตามมาตรา 420 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ระบุว่า "ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น" ต้องจ่ายค่าเสียหายอีก 170,000 บาท ซึ่งคำนวณจากเส้นรอบวงต้นไม้ 14 ต้น กำหนดชำระภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันนี้ ( 6 มี.ค. 2561 ) 

ส่วนคดีอาญา เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตจตุจักร ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อ สน.บางเขน เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2561 ในข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ขณะนี้ พนักงานสอบสวน กำลังสรุปสำนวนคดี

'อิตาเลียนไทยฯ' ยันทำตามสัญญาก่อสร้าง

ขณะที่นายกมล มหาผล ผู้จัดการประชาสัมพันธ์และจัดการจราจร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) ชี้แจงกรณีตัดต้นไม้ 14 ต้น หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่า บริษัทฯ ต้องเร่งดำเนินการสร้างสะพานรถข้าม 3 จุด คือ ข้ามแยกรัชโยธิน, แยกเสนานิคม และแยก ม.เกษตรฯ ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ (61) ควบคู่ไปกับการก่อสร้างรางรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่) ซึ่งจำเป็นต้องใช้พื้นที่ฟุตปาธบางส่วนมาทำเป็นผิวการจราจร จึงต้องขออนุญาตสำนักงานเขตจตุจักร ขุดล้อมย้ายต้นไม้ออกจากพื้นที่ ตามสัญญาการก่อสร้าง 

ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้ส่งแผนการดำเนินงาน ทั้งรูปแบบการก่อสร้างสะพานรถข้าม และการขุดล้อมย้ายต้นไม้ ไปให้ รฟม. ส่งต่อไปยัง กทม. ตั้งแต่ปี 2558 แล้ว และได้ทำหนังสือยืนยันแผนฯ อีกครั้ง เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา (61) แต่ยังติดขัดเรื่องการสำรวจพื้นที่ ซึ่งต้องใช้เวลาดำเนินการ ทางบริษัทฯ จึงเห็นว่า หากปล่อยเวลาล่วงเลยนานกว่านี้ จะส่งผลกระทบต่อระยะการก่อสร้างทั้งโครงการ เพราะหากไม่แล้วเสร็จตามกำหนด (ก.พ.62) จะต้องเสียค่าปรับวันละ 14 ล้านบาท

"เราดำเนินการด้วยความรีบเร่งของโครงการ เพื่อให้แล้วเสร็จทันภายในปีนี้ (61) เพราะฉะนั้นสิ่งใดที่สามารถทำคู่ขนานกันไปได้ เผื่อไม่ให้มันเสียเวลา เราก็ควรจะทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน อย่างกรณีนี้ ระหว่างที่รอให้ทางสำนักงานเขตฯ ส่งผลการประเมินค่าใช้จ่ายขุดล้อมย้ายต้นไม้ เราจึงลิดกิ่งลิดใบต้นไม้ไปก่อน เพื่อให้ต้นไม้ปรับตัว ยืนยันได้แจ้งเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตฯ แล้ว ทั้งทางหนังสือ และทางวาจา แต่เมื่อภาพต้นไม้ถูกตัดเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็อาจทำให้กลุ่มคนรักต้นไม้เกิดความกังวล เราขอให้ความมั่นใจว่า ต้นไม้ที่ถูกขุดล้อมย้ายจะรอดตายทุกต้น เพราะเราดูแลอย่างดีในสถานที่แห่งใหม่" นายกมล กล่าว

ส่วนเรื่องค่าปรับและค่าเสียหาย ทางบริษัทฯ ยินดีชดใช้ตามระเบียบของกรุงเทพมหานคร และหลังจากนี้จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความกังวลของประชาชน และให้โครงการดำเนินไปด้วยความราบรื่น ตามระยะเวลาที่กำหนด