ไม่พบผลการค้นหา
แอดมินเพจ Headache Stencil โพสต์ข้อความระบุหนีออกจากที่พัก และปลอดภัยแล้ว หลังภาพ 'นาฬิกาปลุก' กลายเป็นข่าวดัง

"หนีออกมาตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืน ตอนนี้ปลอดภัยแล้วนะครับ ขอบคุณทุกความเป็นห่วงและกำลังใจจากทุกท่านครับ ไว้พบกันใหม่" แอดมินเพจ Headache Stencil โพสต์ข้อความดังกล่าวเมื่อประมาณ 1 ชม. ที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้านี้เขาโพสต์ข้อความว่า “ขอความกรุณาตำรวจทุกท่านที่ส่งกำลังไปเฝ้าตามที่พักหรือไปรังควานตามบ้านคนรู้จักของผมกลางดึก วิธีที่ใช้มันดูไม่น่าเป็นตำรวจเท่าไหร่นัก ประชาชนธรรมดาอย่างผมย่อมมีสิทธิ์ที่จะไม่แน่ใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ผมเพียงแสดงสิ่งที่คิดด้วยงานศิลปะดังเช่น 'สากลโลก' มีอยู่ทั่วไป ไม่ได้ไปฆ่าใครตาย ไม่น่าต้องไล่ล่ากันขนาดนี้นะครับ และขออภัยคนรู้จักทุกท่านหากมีตำรวจไปรบกวนเพื่อตามหาผม หากใครโดนเคสนี้ฝากให้ตำรวจแสดงตัว และบัตรด้วยนะครับว่าเป็นตำรวจจริง”

วันเดียวกัน แอดมินเพจดังกล่าวยังเปลี่ยนภาพคัฟเวอร์เพจเป็นข้อความที่มีความหมายว่า "ศิลปะไม่ใช่อาชญากรรม" ด้วย

27545048_874349229410499_8950791352034950571_n.jpg

Headache_Stencil เป็นศิลปินที่สร้างงานศิลปะบนกำแพง หรือ 'กราฟฟิตี' ซึ่งมีเนื้อหาสะท้อนสังคม โดยเริ่มทำงานต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557 และมีผู้ให้ความสนใจผลงานของเขาในวงกว้าง มีผู้ติดตามเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมหลายพันคน โดยผลงานของเขาเกือบทั้งหมดจะถูกบันทึกเป็นภาพถ่ายและนำไปเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ทำให้ผลงานของเขายังคงถูกแบ่งปันในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าผลงานในสถานที่จริงอาจจะถูกลบหรือบอมบ์ทับโดยศิลปินคนอื่นไปแล้ว

ผลงานล่าสุดของ Headache_Stencil คือกราฟฟิตี 'นาฬิกาเพื่อน' ซึ่งถูกพ่นบนกำแพงที่ติดกับสะพานลอยแห่งหนึ่งในย่านสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา และช่างภาพของสำนักข่าวต่างประเทศ AFP ได้บันทึกภาพดังกล่าวไว้ โดยระบุว่าเป็นศิลปะที่พาดพิงถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังถูกสังคมไทยวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีครอบครองนาฬิกาหรูอย่างน้อย 25 เรือน โดยไม่เปิดเผยแหล่งที่มา แต่ปรากฏว่าภาพนาฬิกาดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจลบไปแล้วเมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) 

จากการสอบถามผู้ที่อยู่ละแวกใกล้เคียงสะพานลอยที่มีภาพ 'นาฬิกาเพื่อน' ของ Headache_Stencil พบว่าเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณดังกล่าวด้วย และหลังจากนั้น Headache_Stencil ได้เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พระโขนงประมาณ 2-3 นาย เข้าไปยังคอนโดที่พักอาศัยช่วงบ่ายวันที่ 2 ก.พ. เพื่อสอบถามข้อมูลของเขาจากนิติบุคคล แต่เนื่องจากไม่มีหมายค้น จึงไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆ

อ่านเพิ่มเติม: