ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ โดยสารเรือพลังงานไฟฟ้าลำแรกของไทยล่องเจ้าพระยา ก่อนเปิดให้ใช้บริการฟรี 2 เดือนเป็นของขวัญปีใหม่ พร้อมขอให้เชื่อมั่นสถานการณ์โควิด-19 คุมได้ ขอประเมินสถานการณ์ก่อน ยังไม่ชัดต้องล็อกดาวน์หรือไม่ แต่หากจำเป็น ต้องกล้าหาญที่จะพูดแม้ต้องเสียใจ

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดโครงการทดลองเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยา หรือ Mine smart ferry พร้อมเปิดท่าเรือสะพานพุทธยอดฟ้า ท่าเรืออัจฉริยะ หรือ Smart Pier โดยกรมเจ้าท่า ร่วมกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด มหาชน พัฒนาเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ผลิตโดยคนไทย และ ดำเนินการจดทะเบียนเรือโดยสารไฟฟ้าลำแรกของประเทศไทย พร้อมนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงท่าเรือสะพานพุทธ ให้เป็นท่าเรืออัจฉริยะ มีเครื่องสแกนอุณหภูมิอัตโนมัติ ป้ายอัจฉริยะแจ้งเวลาเรือเข้าเทียบท่า เครื่องจำหน่ายบัตรโดยสารอัตโนมัติ ระบบตรวจสอบเส้นทางเดินเรือและตารางเรือ ระบบความปลอดภัยและตรวจนับความหนาแน่นของผู้โดยสารในแต่ละวัน รวมถึงไฟส่องสว่างด้วยระบบโซล่าเซลล์และอารยสถาปัตย์ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไร้มลพิษ มอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2564 ให้กับคนไทยทุกคน โดยจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปทดลองใช้บริการฟรี ในช่วงระหว่าง วันที่ 23 ธ.ค. 2563 ถึงวันที่ 14 ก.พ. 2564 โดยวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ให้บริการฟรี จอดรับส่งผู้โดยสารบริเวณท่าเรือ 11 แห่ง ตั้งแต่ท่าเรือพระราม 5 ไปจนถึงท่าเรือสาทร ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ให้บริการฟรีเฉพาะท่าเรือที่อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว 5 แห่ง ได้แก่ ท่าช้าง วัดอรุณฯ วัดกัลยาณมิตร กรมเจ้าท่า ท่าเรือ CAT Tower จากนั้นจะเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายเป็นเวลา 6 เดือน ก่อนปรับอัตราจัดเก็บค่าโดยสารตามระยะทางต่อไป

จากนั้น นายกรัฐมนตรี นำคณะโดยสารเรือพลังงานไฟฟ้า ออกจากท่าเรือ CAT Tower ไปยังท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรืออัจฉริยะแห่งใหม่ พร้อมทักทายประชาชนที่มาใช้บริการในบริเวณดังกล่าวด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวระหว่าง เป็นประธานพิธีเปิดโครงการทดลองเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ ว่าจะมีลักษณะฝุ่นละอองเป็นโดมครอบกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 22 - 29 ธ.ค. นี้ ดังนั้น จะต้องเข้มงวดตรวจสอบจับกุม รถยนค์ที่มีควันดำ เกินค่ามาตรฐาน เพื่อแก้ปัญหา PM 2.5

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รัฐบาลควบคุมได้ แม้จะยังมีปัญหาอยู่ แต่ทุกอย่างต้องแก้ไขกันไป ซึ่งประเทศไทยยังดีกว่าอีกหลายประเทศ ดังนั้น มีอะไรต้องช่วยแก้ไข อย่าโจมตีให้ร้ายกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความสับสนอลหม่าน นอกจากปัญหาสุขภาพแล้ว ยังต้องดูแลแก้ปัญหาเศรษฐกิจควบคู่กันไปด้วย ก่อนทิ้งท้าย ถ้าเรายิ้มให้โลก โลกก็จะยิ้มให้เรา

ประยุทธ์ เรือ 182328000000.jpgประยุทธ์ กองทัพเรือ 22182544000000.jpgประยุทธ์ อนุพงษ์ ศักดิ์สยาม 336000000.jpg

ขอประเมินสถานการณ์โควิด ก่อนยังไม่ชัดล็อกดาวน์

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการออกแถลงการณ์ในเวลา 18.00 น. วันเดียวกันนี้ว่า เป็นสิ่งที่รัฐบาลสั่งการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ครม. และ ศบค. ซึ่ง มาตรการขณะนี้ทุกคนเข้มงวดหมด แต่เป็นห่วงก่อนถึงสิ้นปีนี้ ว่าเราจะสามารถควบคุมได้แค่ไหน ลดการแพร่ระบาดได้หรือไม่จะเป็นตัวชี้วัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเอง ไม่อยากจะพูดว่าต้องล็อกดาวน์อีกครั้ง แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องทำ ตนเองก็ต้องกล้าหาญที่จะพูด แม้จะต้องเสียใจก็ตาม นี่เป็นบทเรียนที่ทุกคนจะต้องนำไปแก้ไขปัญหาให้ได้ ตนคงไม่โทษใครว่าบกพร่องแต่ต้องแก้ปัญหา โทษใครไม่ได้ โทษผู้ประกอบการไม่ได้ ปัญหาอยู่ที่คนถ้าไม่รักษาวันหน้าก็เกิดขึ้นอีก หากเปรียบเทียบกับต่างประเทศถือว่า ผู้ติดเชื้อของไทยยังต่ำ แม้จะมีการระบาดรอบใหม่ นั่นคือสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ถ้าทุกคนร่วมมือกันก็จะดียิ่งขึ้น 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า แรงงานข้ามชาติที่จะเข้ามาทำงานในไทยสามารถได้ และต้องเข้ามาถูกต้องตามกฎหมาย แต่คิดว่าแรงงานที่มีอยู่ในไทยตอนนี้น่าจะเพียงพอ ซึ่งต้องดูความต้องการของตลาดแรงงาน พร้อมยอมรับว่าไทย มีความจำเป็นต้องใช้อะไรงานต่างด้าวโดยเฉพาะภาคการประมง แต่ขอให้เป็นแรงงานที่ถูกกฎหมายเพราะคนไทยไม่ทำงานประเภทนี้ ซึ่งเป็นปัญหา เพราะถ้าไม่ใช้แรงงานเหล่านี้ก็ไม่มีใครทำ แต่ต้องดูแลควบคุมให้รัดกุม และวันนี้ได้สั่งการไปแล้วว่าจะต้องกวาดล้างเรื่องกระบวนการนำแรงงานเถื่อนผิดกฎหมายเข้ามา 

ส่วนปีใหม่ ประชาชนสามารถเดินทางไปฉลองได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าช่วงนี้ต้องติดตาม การประเมินจากสาธารณสุขทุกจังหวัด และ ศบค. ซึ่งวันนี้ได้สั่งการไปทุกจังหวัดแล้ว รวมถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้กำชับตั้งแต่วันแรกว่าพื้นที่ใดที่มีความเสี่ยงมากน้อย วันนี้ต้องมาดูว่าปัญหาเกิดขึ้นจากพื้นที่ใดจากแรงงานต่างด้าวก็ต้องไปดู สำคัญคือต้องร่วมมือกันไม่รับแรงงานเถื่อนถ้ามีเข้ามาต้องตรวจสอบรายงาน แต่ที่ผ่านมาไม่ทำ เพราะต้องการใช้แรงงานราคาถูก ทำให้ปัญหาพัลวันกัน เราต้องช่วยกัน สร้างระบบให้เข้มแข็งไม่มีใครแก้ปัญหาได้โดยลำพัง โทษใครไม่ได้ ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ “คนชั่วอย่างไรก็ชั่ว ต้องหาคนชั่วให้เจอ”นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ไม่ยากเรื่องการกวาดล้าง และเรื่องนี้ไม่ใช่โจทย์ท้าทายการทำงานของเจ้าหน้าแต่เป็นสิ่งที่จะต้องทำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :