ไม่พบผลการค้นหา
นิสิตเก่าจุฬาฯ ยื่นหนังสือถึงอธิการบดีให้ตรวจสอบ รศ.ดร.วาสนา วงศ์สุรวัฒน์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ หลังจากโพสต์ข้อความในทวีตเตอร์เชื่อมโยงทหาร แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบแต่อย่างใด

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2563 รองศาสตราจารย์ ดร.วาสนา วงศ์สุรวัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในบัญชีทวิตเตอร์ 'ส่วนตัว ' พาดพิงทหารและรัฐบาล หลังเกิดเหตุนายทหารกราดยิงคนเสียชีวิตใน จ.นครราชสีมา รวมถึงการบุกยึดห้างเทอร์มินอล 21 เมื่อวันที่ 8-9 กพ.ที่ผ่านมา

จากโพสต์ดังกล่าว ทำให้ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กนามว่า 'Sompob Pordi' ซึ่งระบุว่าตนเองเป็นศิษเก่าของจุฬาฯ คนหนึ่ง โพสต์ข้อความที่ระบุว่าเป็นจดหมายเปิดผนึกถึงอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณบดีคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการสอบ รศ.ดร.วาสนา โดยระบุว่าข้อความทวิตเตอร์ "อาจสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้"

โพสต์ของผู้ระบุว่าเป็นศิษย์เก่าจุฬาฯ ย้ำด้วยว่า บุคลากรที่มีตำแหน่งเป็นอาจารย์ที่สมควรเป็นแบบอย่างและตัวอย่างที่ดีต่อนิสิตของมหาวิทยาลัยและเยาวชนในสังคม

'วอยซ์ออนไลน์' ได้ติดต่อสอบถาม รศ.ดร.วาสนา ซึ่งขณะนี้ (12 ก.พ.2563) กำลังลาราชการเพื่อทำวิจัยในต่างประเทศ ทาง ดร.วาสนากล่าวว่า ตอนนี้ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

นอกจากนี้ รศ.ดร.วาสนา ยังระบุด้วยว่า ข้อความต้นทางนั้นถูกลบออกจากบัญชีทวีตเตอร์ส่วนตัวไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ในสื่อสังคมออนไลน์ 'ทวิตเตอร์' มีการรายงานกรณีวิวาทะระหว่างนิสิต ผู้ใช้สื่อออนไลน์ และอาจารย์จากภาควิชา PR ของจุฬาฯ อีกรายหนึ่ง โดยมีที่มาจากโพสต์ของอาจารย์คนดังกล่าวในเฟซบุ๊ก ซึ่งเกี่ยวพันการติดแฮชแท็ก #มาพ่องเพิ่งอะไร ในสื่อสังคมออนไลน์

อาจารย์คนดังกล่าวแสดงความเห็นว่า การชูสัญลักษณ์ 'มินิฮาร์ต' ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังเยี่ยมผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงโคราชเมื่อวันที่ 9 ก.พ. "เป็นการให้กำลังใจประชาชน" พร้อมโจมตีผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ พล.อ,ประยุทธ์ว่า มี 'ความอยากด่า'

แต่มีผู้เข้ามาโต้แย้งว่า การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เหมาะสมกับกาลเทศะ ทั้งยังไม่รู้ที่มาของสัญลักษณ์มินิฮาร์ต จากนั้นจึงมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย มีทั้งผู้ที่ชี้แจงด้วยเหตุผล และผู้ที่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย แต่ขณะนี้โพสต์ต้นทางถูกลบทิ้งไปแล้วเช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: