ไม่พบผลการค้นหา
หลังการเลือกตั้ง 79 วันผ่านไป ประเทศไทยยังไม่อาจจัดตั้งรัฐบาลได้ ด้วยเหตุ กลุ่ม ขั้ว มุ้งมีมากถึง 19 พรรคในพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งปัญหาเกิดจากระบบเลือกตั้งที่เอื้อให้เกิดรัฐบาลผสม แถมเสียงปริ่มน้ำ ส่งผลให้การเมืองเกิดการต่อรองขนานใหญ่ จนไม่มีใครยอมใครจนถึงทุกวันนี้

'วอยซ์ ออนไลน์' ขอพาทบทวนไทม์ไลน์ เกี่ยวกับการยื้อแย่งชามข้าวที่ยังไม่ลงตัว ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง จนถึงหลังที่ประชุมรัฐสภามีมติ 500 เสียง เห็นชอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อไป ด้วยเสียงสนับสนุนจากส.ว. 249 เสียง และ 251 เสียงจากส.ส.ของ 19 พรรคการเมือง ดังนี้

ปลายปี 2561 ก่อนการเลือกตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานยุทธศาสตร์ปราศรัยหาเสียง พรรคเพื่อไทย โชว์เก๋าเกม ชิงไฮปาร์คแบไต๋แหย่ กลุ่ม ขั้ว มุ้ง ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า จัดสรรโควต้ารัฐมนตรีไว้เสร็จสรรพ ตั้งแต่ยังทันไม่เข้าคูหา 

แล้วธาตุแท้ก็เปิดเผย เมื่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพปชร. และนายภิรมย์ พลวิเศษ ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ก็เปิดเผยอย่างไม่อ้อมค้อมไว้บนเวทีหาเสียง ที่ศาลาประชาคม บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2561

ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า ขณะนี้นักการเมืองมีการขอตำแหน่งทางการเมืองกันแล้ว โดยกล่าวว่าตนจะเป็นรมว.พาณิชย์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะเป็นรมว.คมนาคม และนายสุชาติ ตันเจริญ จะเป็นรมว.พลังงงานนั้น เราไม่มีปัญหาอะไร เราก็เดินหาเสียงของเราไป" นายสมศักดิ์กล่าว

"นายสมศักดิ์ไม่ได้อยากเป็นรมว.พาณิชย์ แต่นายสมศักดิ์จะเป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์ เพราะขณะนี้นายสมศักดิ์ได้มีการจองซื้อเฮลิคอปเตอร์ไว้แล้ว 2 ลำ เพื่อใช้บินตรวจงานด้านเกษตรกรรมทั่วประเทศ" นายภิรมย์กล่าว

ก่อนที่ฝุ่นจะเริ่มตลบช่วงเจรจราจัดตั้งรัฐบาล ระหว่างพปชร.กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี 54 เสียง ซึ่งร้อนระอุดุเดือดสุดจะแหกหัก

นับแต่คืนวันที่ 24 พ.ค. ก่อนจะมีการลงมติเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร อันจะทำให้เห็นโฉมหน้ารัฐบาลชุดต่อไป ในวันที่ 25 พ.ค. ซึ่งยี่ห้อ ‘ประชาธิปัตย์’ โชว์ลูกเขี้ยว ดีลกระทรวงหลักทั้ง พาณิชย์ เกษตรฯ มาไว้ในกำมือ พ่วงด้วย นายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร

เล่นเอาแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ออกอาการเครียด ถึงขั้นไล่นักข่าวออกจากพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค หลบออกจากประตูหลัง เหตุผลก็ไม่ต้องเป็นที่สงสัย ดีลเหยียบเมฆจากประชาธิปัตย์ 7 ที่นี่งนั้น มาเบียดโควต้าคนกันเองของกลุ่ม สามมิตร ที่วางตัว นายสุชาติ ตันเจริญ นั่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรมว.เกษตรฯ รวมไปจนถึงกระทรวงพาณิชย์ ที่หวังเก็บไว้สานต่อบัตรคนจน ลดแลกแจกแถมแบบง่ายๆ

พรรคประชาธิปัตย์ รัฐสภา อภิสิทธิ์

ด้านพรรคร่วมรัฐบาลมืออาชีพนั้นไร้ปัญหาราวของตาย ชาติไทยพัฒนา 10 ที่นั่ง พอใจ 3 เก้าอี้คือ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รมช.เกษตร และรมช.อุตสาหกรรม 

พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้มีข้อกังวลเรื่องการเป็นรัฐบาลปริ่มน้ำ" นายยุทธพล อังกินันนท์ รองหัวหน้ารพรรคชาติไทยพัฒนาและโฆษกกล่าว เมื่อวันที่ 31 พ.ค. (2)

ขณะที่พรรคภูมิใจไทย 51 ที่นั่ง ลงตัวด้วยสัดส่วนจากเกรดเอ 3 กระทรวงพ่วงรองนายกฯ คือ รมว.คมนาคม รมว.สาธารณสุข รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา สำหรับพรรคต่ำ 10 ต่ำ 5 อย่างรวมพลังประชาชาติไทยควงคู่ชาติพัฒนา จบที่ กระทรวงพลังงาน ส่วน 10 พรรคขนาดจิ๋วได้รางวัลประธานกรรมาธิการสามัญในสภา

ดีล - ต่อรองเก้าอี้กระทรวงต่างๆนั้นล้วนเกิดขึ้นทั้งหมด ก่อนเปิดประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อลงมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ในวันที่ 5 มิ.ย.

ทว่าคล้อยหลังเพียงวันเดียว ก็เกิดการพลิกลิ้นจากพรรคพลังประชารัฐ เมื่อแกนนำรัฐบาล500 ขอเกลี่ยกระทรวงใหม่ หากไล่เบี้ยดูก็จะพบว่า 6 กระทรวงเกรดเอ อย่าง คมนาคม เกษตรและสหกรณ์ พาณิชย์ ศึกษาธิการ สาธารณสุข และท่องเที่ยว

แม้พรรคพลังประชารัฐจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลคุมกระทรวงความมั่นคงไว้ทั้งหมดแล้ว แต่การกลืนเลือดคุมกระทรวงเกรดบีนั้นได้ไม่คุ้มเสีย ทำให้ต้องนำ กระทรวงยุติธรรม ต่างประเทศ แรงงาน ขึ้นขอต่อรองบนโต๊ะพันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาลทันที 

เห็นได้ชัดจากคำประกาศของ สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา

"สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เห็นพ้องกันว่า ควรดูแลกระทรวงสำคัญเช่นคมนาคมและเกษตรฯ เพื่อความเหมาะสมในฐานะเป็นพรรคแกนนำและต้องทำตามสัญญาที่หาเสียงไว้กับประชาชน แม้มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าได้จัดสรรทั้ง 2 กระทรวงให้พรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว จึงอยากฝากไปยังนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ผู้ได้รับมอบหมายให้ประสานจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า ในฐานะที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนหลักจัดตั้งรัฐบาล สมควรต้องได้ดูแลกระทรวงสำคัญต่างๆ เพื่อสานงานของรัฐบาล" นายสิระกล่าว 

จุรินทร์ องอาจ ประชาธิปัตย์

เสียงสะท้อนจากเบอร์ 1 ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลขั้วที่ 3 เริ่มจากประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ยืนกรานเสียงแข็งยึดดีลเดิม 

"ต้องไปสอบถามความชัดเจนจากพรรคพลังประชารัฐ เบื้องต้นสิ่งที่ตกลงกันไว้เป็นที่ยุติแล้วเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามนั้น"

นายเทพไท เสนพงษ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เล่นบทโหดขู่ถอนเสียงหนุนรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ข้อตกลงต้องเป็นข้อตกลงสัญญาต้องเป็นสัญญา

"หากบิดพลิ้วเปลี่ยนแปลงยึดคืน ตนคนหนึ่งจะไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่แก้ไขประเด็นนี้รัฐบาลจะบริหารราชการแผ่นดินด้วยความยากลำบาก มันไม่ง่ายอย่างที่คิดและเราเชื่อว่าถ้าคุณผิดสัญญาตั้งแต่ต้น ไม่มีหลักประกันใดว่าจะผิดสัญญาอีกต่อไป"

ศึกชิงเก้าอี้รัฐมนตรียังไม่ทันจะแต่งตั้งนายกฯอย่างเป็นทางการ ร้อนลึกจนร้าวหนักที่สุด คือ ศึกระหว่าง พรรคพลังประชารัฐ กับ พรรคภูมิใจไทย

เพราะถึงขั้นเปิดฉากสงครามน้ำลายแฉะโซเชียลมีเดีย ลับฝีปากกลายเป็นวิวาทะเดือด ระหว่าง นายอนุทิน ชาญวีรกุล หรือเสี่ยหนู หัวหน้าพรรค กับนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ผ่านเฟซบุ๊ก

อภิสิทธิ์ลาออก อนุทิน สาธิต

เริ่มจากคืนวันที่ 8 มิ.ย. เวลา 19.42 น. นายอุตตม สาวนายน เลขาธิการ พปชร. โพสต์ ผมขอแจ้งความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า

"ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการพูดคุยหารือ ตั้งทีมประสานงานเพื่อหารือกับพรรคร่วม เพื่อเร่งจัดตั้งรัฐบาล ยังไม่มีการสรุปว่าใครจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใดบ้าง แต่ยืนยันว่าจะพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้ตำแหน่งต่างๆลงตัวที่สุดและเสร็จสิ้นโดยเร็ว

ทำให้ ‘อนุทิน’ ถึงขั้นตั้งกระทู้สด สวนทันควันกลางโซเชียลเมื่อเวลา 20.16 น.ว่า “กระทรวงมีไว้ให้คนเข้าไปทำงาน ไม่ใช่มีไว้ให้มาเที่ยวแลกไปมา จบข่าว!!!” พร้อมคอมเมนต์เพิ่มเติม “คมนาคม สาธารณสุข ท่องเที่ยว เปลี่ยนไม่ได้”

วันถัดมาเรื่องก็ยิ่งบานปลายไปขึ้นเมื่อนายธนกร โพสต์ข้อความพาดพิงบริษัทที่ก็รู้ว่าเป็นของใคร แต่ไม่ยืนยันว่า เป็นบริษัทเดียวกับที่รับเหมาก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่หรือไม่ ว่า

"1.กระทรวงมีไว้ให้ทำงานเพื่อประชาชนไม่ใช่มีไว้ให้เข้าไปหางานเพื่อบริษัท #ถูกต้องนะครับ !! 2.กระทรวงมีไว้ให้ทำงานเพื่อประชาชน และที่สำคัญ ต้องไม่ใช่เก็บไว้ให้บริษัทเข้าไปหางาน #ถูกต้องนะครับ!! 3.กระทรวงมีไว้ให้ทำงานเพื่อประชาชน แลกเปลี่ยนได้..ถ้าจะเอาไปเพื่อประโยชน์บริษัทใด #ถูกต้องนะครับ!! 4.ไม่ยอมแลก เก็บไว้ ทำงานให้ประชาชน หรือ หางานให้บริษัท #คนเขาสงสัย..กระทรวงนี้ของข้าใครอย่าแตะ55 5. ไม่มีใคร…แลกอะไรกันไปมา มีแต่หาความเหมาะสม ไม่ให้คนเขานินทา ว่าเลือกกระทรวงให้บริษัท #ถูกต้องนะครับ"

สุดท้าย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แกนนำภาคเหนือ ต้องออกมาเบรกเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมในพรรคตัวเองว่า "ปัญหาตามข่าวที่ปรากฎ เป็นเรื่องของมารยาททางการเมือง เด็กก็ควรอยู่แบบเด็ก ไม่ควรไปเทียบชั้นหัวหน้าพรรค ต้องตักเตือนว่าทำอะไรต้องคิดไม่ใช่พุดอย่างเดียว"

ประยุทธ์ อนุทิน เฉลิมชัย พรรคร่วมรัฐบาล _20190611155318000000.jpg

ถึงจุดนี้หลายคนอาจสงสัยทำไมจึงมีการแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงเกรดเอ 6 แห่ง แต่ก็จะถึงบางอ้อ

เมื่อย้อนดูงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท ดังนี้

1.กระทรวงศึกษาธิการ 4.87 แสนล้านบาท

2.กระทรวงคมนาคม 1.79 แสนล้านบาท

3.กระทรวงสาธารณสุข 1.35 แสนล้านบาท

4.กระทรวงเกษตรและสหรกรณ์ 1.08 แสนล้านบาท

 5.กระทรวงพาณิชย์ 6.8 พันล้านบาท

และ 6.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา 6.07 พันล้านบาท

รวมทั้งหมดเกิน 9 แสนล้านบาท คิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดตลอด 1 สัปดาห์หลังลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ยังไม่อาจเห็นโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดที่ 62 ต่อไปอย่��งชัดเจน มีแต่เพียงสงครามน้ำลายจากคนกันเองของพรรคร่วมเสียงปริ่มน้ำ

ที่น่าหวาดเสียวแทนว่า ขนาดไม่ทันเริ่มงานยังขนาดนี้ ถ้าเริ่มงานแล้วคงจะอัปปางเมื่อไรก็เป็นได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง