ไม่พบผลการค้นหา
ศาลอาญานัดตรวจหลักฐาน 22 แกนนำกลุ่มราษฎร คดีผิดม.112 และ ม.116 กรณีร่วมชุมนุม 19 กันยาฯ เบิกตัวแกนนำหลักจากเรือนจำ ด้าน 'เพนกวิน' ชู 3 นิ้วลั่น "คุกขังความจริงไม่ได้"

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐาน คดีดำ อ.539/64 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มราษฎร กับพวก รวม 18 คนเป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ร่วมกันมั่วสุมชุมนุม ฯ ตามมาตรา112,116 ฯลฯ และในคดีดำอ.286/64 และ287/64 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง พริษฐ์ ชิวารักษ์ กับพวก 2 สำนวน รวม 4 คนเป็นจำเลยในความผิดฐาน "ดูหมิ่นสถาบัน ร่วมกันมั่วสุมชุมนุมฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112,116 และฯลฯ" ที่ ห้องพิจารณา 701 กรณีการร่วมชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร

เพนกวิน ศาลอาญา.jpg

นอกจากนี้ในเวลา 11.00 น. ศาลนัดฟังคำสั่งคดีดำ ฝ.323/64 ที่ ภาณุพงศ์ จาดนอก จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และปิยรัฐ จงเทพ ยื่นคำร้องขอให้ศาลอาญามีคำสั่งย้ายทั้ง 3 คนจากเรือนจำพิเศษธนบุรี กลับมาควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะเบิกตัว พริษฐ์ อานนท์ จตุภัทร์ และสมยศ ปติวัฒน์ ปิยรัฐ และ ปนัสยา มาศาล ส่วนจำเลยอื่นๆ ต้องมาฟังการพิจารณาด้วยเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ในเวลาประมาณ 08.40 น. รถของราชทัณฑ์ได้นำตัว ปนัสยา จากทัณฑสถานหญิงกลางมาถึงเป็นคนแรก ตามด้วยรถของกลุ่มปิยรัฐ ภาณุพงศ์ จตุภัทร์ จากเรือนจำพิเศษธนบุรี และกลุ่มสุดท้ายนำตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ได้แก่ พริษฐ์ อานนท์ ปติวัฒน์ และสมยศ โดยหลังจากมาถึง พริษฐ์ ได้ทำการชู 3 นิ้วและกล่าวด้วยว่า “ถึงเขาจะขังผมได้ แต่ขังความจริงไม่ได้ความจริงย่อมเป็นความจริง ไม่ว่าจะอยู่ที่ตรงไหน”

รุ้ง ศาลอาญา.jpg

กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า วันนี้ศาลนัดพร้อมเพื่อตรวจหลักฐาน ซึ่งส่วนตัวไม่สามารถคาดเดาได้ว่าศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้ย้ายเรือนจำหรือไม่ ทั้งยังมีประเด็นที่จำต้องพูดคุยกับศาล กรณีของแพนกวินที่ถูกนำตัวไปคุมขังรวมกับนักโทษเด็ดขาด ซึ่งการนำตัวแกนนำไปคุมขังกับนักโทษเด็ดขาดเป็นสิ่งที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามได้สอบถามถึงเหตุผลเรื่องการคุมขังดังกล่าวไปยังเจ้าหน้าที่เรือนจำตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบ 

ส่วนเรื่องแนวทางการประกันตัวผู้ต้องหา วันนี้จะมีการปรึกษากับทางครอบครัวของแกนนำอีกครั้ง ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องคงให้แกนนำทุกคนได้ตัดสินใจถึงแนวทางการต่อสู้คดีต่อไป

แอมมี่.jpg

คณาจารย์ร่วมสังเกตการณ์-ให้กำลังใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.20 คณาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ นำโดย ศ.สุริชัย หวันแก้ว ในฐานะอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและหนึ่งในคณะกรรมการสมานฉันท์ พร้อมด้วย รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผศ.ดร.บุญเลิศ วิเศษปรีชา และ ผศ.ดร.นลินี ตันธุวนิตย์ อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ รศ.ดร.โคทม อารียา ที่ปรึกษาสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดลเดินทางเข้ามาที่ศาลอาญาเพื่อร่วมสังเกตการณ์และให้กำลังใจนักศึกษาของตนและแกนนำกลุ่มราษฎรในวันนี้

ศ.สุริชัย เผยว่า การเดินทางมาศาลอาญาในวันนี้ เดินทางมาด้วยความห่วงใย อยากเห็นกระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งให้สังคมบ้านเมืองเป็นพื้นที่ปลอดภัย อยากเห็นสังคมที่สามารถพูดคุยเรื่องอนาคตที่ทุกคนมีความภูมิใจได้

ด้าน รศ.ดร.พวงทอง กล่าวว่า เยาวชนคือความหวังของชาติ สิ่งที่เขาทำ เขาทำเพื่อให้สังคมไทยดีขึ้น เพียงแต่ว่าสิ่งที่เขาเสนอนั้นแตกต่างไปจากที่ผู้มีอำนาจต้องการที่จะได้ยิน โดยสามัญสำนึก เขาเพียงต้องการเห็นสังคมดีขึ้น เพราะฉะนั้น วิธีที่สังคมอารยะกระทำกับเยาวชนที่เสียสละความมั่นคงในชีวิตตนเอง ต่อสู้เรียกร้องเพื่อความเป็นธรรมให้สังคมดีขึ้น คือการรับฟังและเจรจาพูดคุยกับเขา ไม่ใช่ด้วยวิธีการลงโทษลักษณะนี้ ในอดีต สังคมไทยได้กระทำผิดพลาดมาแล้วหลายครั้ง โดยการทำร้ายคนรุ่นใหม่ เช่น กรณี 14 ตุลา, 6 ตุลา , หรือพฤษภา 2535 ที่มีคนรุ่นใหม่เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งการกระทำตอนนี้ถือเป็นการทำผิดครั้งที่สอง เป็นการทำร้ายคนรุ่นใหม่ ที่เป็นกลุ่มคนที่ดีที่สุดที่สังคมไทยจะสร้างขึ้นมาได้ ทั้งนี้ตามหลักมนุษยธรรมแล้ว ควรให้สิทธิแก่เยาวชนรุ่นใหม่ในการแสดงความคิดเห็น และร่วมมือพูดคุยเจรจากัน หากผู้ใหญ่มองว่าสิ่งที่คนรุ่นใหม่เสนอเป็นสิ่งสุดโต่งและไม่สามารถยอมรับได้ ต้องพูดคุยด้วยเหตุและผล เพื่อทำความเข้าใจ ไม่ใช่การทำร้าย เพราะคุณกำลังทำร้ายสิ่งที่ดีที่สุดของสังคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :