พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง พรรคอนาคตใหม่ที่รณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหารว่า ไม่เห็นด้วยที่มีการออกมารณรงค์ โดยอยากให้ทุกคนมีจิตสำนึกในการดูแลประเทศ โดยเฉพาะงานด้านความมั่นคง ทุกคนจะต้องมีส่วนร่วม อยากให้มองถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นหากยกเลิกการเกณฑ์ทหาร โดยย้ำว่าทหารเกณฑ์ยังมีความจำเป็นในการดูแลงานด้านความมั่นคง เกิดการสู้รบ จำเป็นต้องใช้ทหารเกณฑ์ที่มีประสบการณ์ผ่านการฝึก สร้างจิตสำนึกในการรักชาติ ฝึกความเข้มแข็งของจิตใจ ในการต่อสู้ สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลา 

ส่วนหากจะใช้วิธีการจ้างทหาร ก็ต้องศึกษาในเรื่องของงบประมาณ และสวัสดิการ ต่างๆ เหมือนกับต่างประเทศที่ทำกัน ซึ่งยอมรับว่าใช้งบประมาณมาก ที่สำคัญการมีทหารเกณฑ์จะเป็นประโยชน์ กรณีหากเกิดภัยธรรมชาติ และน้ำท่วม สามารถนำกำลังในส่วนนี้มาช่วยเหลือประชาชนได้ทันที เพราะกำลังผ่านการฝึกมาแล้ว

ดังนั้น ตนเองจึงไม่อยากให้นำเอาประเด็นการยกเลิกเกณฑ์ทหารมาเป็นประเด็นที่ใช้ต่อสู้ทางการเมือง เพราะเป็นการณรงค์ที่ผิด อีกทั้งยังกระทบต่อด้านความมั่นคง ซึ่งตนเองไม่อยากเห็นการทำงานการเมืองที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพ ความมั่นคง ความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตาต่างชาติ ขณะเดียวกันตนเองได้สอบถามไปยังผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทุกประเทศมองว่า ยังใช้วิธีการเกณฑ์ทหาร ที่ยังไม่ยกเลิก  

โดยนายกรัฐมนตรี ยังยืนยัน ความมั่นคงและเสถียรภาพรัฐบาลยังมีอยู่ ยังไม่มีแนวคิดปรับ ครม. ขอให้ทำงานไประยะหนึ่งก่อน จากนั้นค่อยวัดผลงานอีกครั้ง 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ว่า ให้มาช่วยงานด้านความมั่นคงภายในประเทศ และกฎหมาย เนื่องจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ เคยทำงานด้านนี้มาก่อน และให้ติดตามการทำงานของรัฐบาล เพื่อหาแนวทางการปฎิบัติที่เหมาะสม

มองเลื่อนเบน 3 สารไม่มีขัดแย้งพรรคร่วม

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีการเลื่อนการยกเลิกแบน 3 สารเคมีอันตรายทางการเกษตร ไปอีก 6 เดือน ว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีขัดแย้งอะไรกัน แต่ส่วนตัวมองในเรื่องของสุขภาพประชาชนและผู้บริโภคเป็นหลัก โดยจากนี้ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง แต่เมื่อคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ต้องหาวิธีการ และมาตราการให้เหมาะสม แม้จะเลื่อนหรือไม่เลื่อน ก็ขอให้ไปพูดคุยกัน ซึ่งตนเองไม่สามารถสั่งการในเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องของคณะกรรมการ และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยจะต้องหาวิธีการที่เหมาะสม เพื่อลดความขัดแย้งและลดปัญหากับภาคการเกษตรด้วย

และยังยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีความขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ

ตั้ง กมธ.ศึกษาแก้ไข รธน. พรรคร่วมรัฐบาลต้องหารือร่วมกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เป็นเรื่องของพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะต้องหารือร่วมกันโดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องมีส่วนร่วมในการตั้งคณะกรรมาธิการ แต่สิ่งที่ตนให้ความสำคัญคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่มีผลกระทบจากสงครามการค้า โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำทั่วโลก ซึ่งวันนี้มีการฟ้องร้องกันในเรื่องการใช้ปาล์มที่ สหภาพยุโรป หรือ อียู ห้ามเรื่องการใช้เชื้อเพลิง 

ขณะเดียวกันเรื่องข่าวก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าจะมีนโยบายประกันราคาข้าว ตนก็ดูรายละเอียดว่ากลุ่มใดได้หรือไม่ได้ประโยชน์ ซึ่งกลุ่มที่ทำนาหลายครั้งก็จะได้มาก โดยรัฐบาลกำลังหามาตรการที่จะช่วยกลุ่มที่ได้ประโยชน์น้อยในการต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุนการผลิต ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว ซึ่งรัฐบาลคิดไม่หยุดในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ใช่นิ่งนอนใจ เสวยสุขอย่างที่ถูกกล่าวหา ยืนยันตนไม่มีความสุข ตราบใดที่ประเทศไทยที่เป็นแบบนี้ และเชื่อว่านักการเมืองทุกคนก็คิดแบบตน 

ส่วนการเลือกตั้งเป็นอีกเรื่องอย่าให้การเมืองทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไม่ได้ ในครม. ก็ต้องมีการหารือกัน ส่วนกระทรวงใดมีหน้าที่รับผิดชอบก็ว่ากันไป เพราะทุกกระทรวงจะต้องทำงานภายใต้นโยบายของรัฐบาลในภาพใหญ่ ไม่ใช่ภาพเล็กที่แต่ละพรรคหาเสียงกันมา ต้องดูว่าอะไรควรทำก่อนหรือหลัง งบประมาณมีมากน้อยเพียงใดกลุ่มใดได้ประโยชน์ เพราะคนไทยมีต้อง 86 ล้านคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สธ. แถลงจุดยืนแบน 3 สารพิษ - โยนถาม ก.อุตฯ ประเด็นมติเลื่อนยกเลิก
• คุมไม่ได้ จะเก็บไว้ทำไม! 'อนุทิน' จ่อคุย 'มนัญญา' คืนกรมวิชาการเกษตร 'เฉลิมชัย'
• คกก.วัตถุอันตรายประกาศลาออก ชี้มติเลื่อนแบน "ไม่เอกฉันท์"
• ขยายเวลาแบน 'พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส' 6 เดือน - ไม่แบน 'ไกลโฟเซต'
• 'อนาคตใหม่' ดันกฎหมายยกเลิกเกณฑ์ทหารเข้าสภาฯ ปูทางปฏิรูปกองทัพ
• 'นายกฯ' ย้ำ 'เกณฑ์ทหาร' ฝึกวินัยไม่แบ่งชนชั้น -รับภาวะสงคราม