ไม่พบผลการค้นหา
คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเลื่อนแบน "พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส" ไปอีก 6 เดือน มีผล 1 มิ.ย. 2563 ส่วน "ไกลโฟเซต" ไม่แบน ให้จำกัดการใช้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย แถลงผลการประชุม ว่า คณะกรรมการมาร่วมประชุม 24 คน จาก 29 คน ได้พิจารณาข้อมูลและมีการแสดงความคิดเห็นแล้ว มีมติเอกฉันท์ให้ออกประกาศกำหนดวัตถุอันตรายพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้กำหนดระยะเวลาบังคับใช้เลื่อน จาก 1 ธ.ค. 2562 เป็น 1 มิ.ย. 2563 ส่วนไกลโฟเซตให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2561 

คณะกรรมการฯ มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรและกระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการจัดทำมาตรการรองรับในการหาสารทดแทน หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสมสำหรับวัตถุอันตรายพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส รวมถึงมาตรการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และให้นำเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณาภายในระยะเวลา 4 เดือน นับจากวันที่มีมติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย วันที่ 27 พ.ย. อ้างตามมติที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2562 ซึ่งมีมติเห็นชอบให้ปรับระดับการควบคุม 3 สาร (พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส) ในความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตร เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธ.ค. 2562 และให้กรมวิชาการเกษตรไปยกร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมว่าด้วยเรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น รวมทั้งขอให้กรมวิชาการเกษตรไปพิจารณาระยะเวลา ความเหมาะสมในการบริหารจัดการวัตถุอันตรายที่ยังคงเหลืออยู่หลังจากประกาศมีผลบังคับใช้ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้เกี่ยวข้องด้วย แล้วมาเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไปนั้น

การประชุมในวันนี้ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการฯ ว่าได้มีการประชุมหารือแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อบริหารจัดการวัตถุอันตรายที่ยังคงเหลืออยู่ รวมถึงผลกระทบด้านอื่น ๆ พบว่ามีข้อจำกัดในการปฏิบัติ หากจะให้การยกเลิกการใช้วัตถุอันตรายทั้ง 3 รายการมีผลในวันที่ ธ.ค.2562 รวมทั้งผลการประชุมรับฟังความคิดเห็น ซึ่งพบว่ามีผู้ไม่เห็นด้วย และมีข้อเสนอแนะเป็นจำนวนมาก

  • การจัดการสารที่คงค้าง ซึ่งมีจำนวน 23,000 ตัน โดยประมาณ ซึ่งหากต้องทำลายจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และมีบางส่วนไม่สามารถผลักดันให้ส่งกลับไปได้ 
  • ผลกระทบที่จะเกิดต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อาหารสัตว์ ซึ่งอาจจะไม่สามารถนำเข้าวัตถุดิบที่เป็นผลิตผลทางการเกษตรได้ เนื่องจากอาจมีสารตกค้างอยู่ในผลผลิตดังกล่าว และในประเด็นนี้ยังไม่มีมาตรการในการบริหารจัดการ 
  • ผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ 

ดังนั้น ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะกรรมการวัตถุอันตราย จึงได้เสนอให้คณะกรรมการพิจารณาทบทวนมติเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2562 เกี่ยวกับรายชื่อวัตถุอันตราย และระยะเวลาในการบังคับใช้ เนื่องจากมีการประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติเพื่อบริหารจัดการวัตถุอันตรายที่จะยกระดับให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 แล้ว พบว่าไม่สามารถบริหารจัดการได้หากประกาศจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธ.ค.2562 และยังไม่มีมาตรการรองรับที่เหมาะสมสำหรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเกษตรกร และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง รวมถึงผลกระทบด้านการค้าระหว่างประเทศ และภาระที่จะเกิดขึ้นกับภาครัฐ 

คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้พิจารณาข้อเสนอของปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว จึงมีมติดังนี้

1. ให้ออกประกาศกำหนดวัตถุอันตรายพาราควอต และคลอร์ไพริฟอสเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้กำหนดระยะเวลาใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2563 สำหรับวัตถุอันตรายไกลโฟเซตให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2561 

2. มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการจัดทำมาตรการรองรับในการหาสารทดแทนหรือวิธีการอื่นที่เหมาะสมสำหรับวัตถุอันตรายพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส รวมถึงมาตรการในการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และให้นำเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาภายในระยะเวลาสี่เดือนนับจากวันที่มีมติ