ไม่พบผลการค้นหา
เกิดเหตุทหารใช้อาวุธปืนยิงผู้บังคับบัญชาและประชาชน เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ห้างสรรพสินค้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้าย เป็นทหารของหน่วยกองพันกระสุนที่ 22 กองทัพภาคที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา เกิดอาการคลั่งบุกเข้ากราดยิงพันเอกอนันต์ ภูโรจน์กระแสร์ อายุ 48 ปี ที่บ้านเลขที่ 187 ม.3 บ้านถนนหัก ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ก่อเหตุ และยิงนางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1 ต.ช้างมิ่ง อ.พนัสนิคม จ.สกลนคร ผู้เป็นแม่ของพันเอกอนันต์ฯ จนเสียชีวิตทั้งคู่ 

หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุได้โพสต์รูปปืนลูกโม่ และข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัว ในชื่อ Jakrapanth Thomma โดยข้อความระบุว่า “ยังไงก็หนีความตายไม่พ้นทุกคน” และข้อความ “ร่ำรวยจากการโกง การเอาเปรียบคนอื่น มันคิดว่า จะเอาเงินไปใช้ในนรกได้รึไง” ก่อนจะขับรถเก๋งสีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลบหนีเข้าไปยังกองพันกระสุนที่ 22 แล้วกราดยิงพลทหารบาดเจ็บ 1 นาย และเสียชีวิต 1 นาย พร้อมกับขโมยรถฮัมวี่ราชการ ของหน่วยฯ ขับหลบหนีออกไปซึ่งมีอาวุธสงครามเป็นปืนเล็กยาวเอสเค พร้อมเครื่องกระสุน และปืนพกสั้นอีก 6 กระบอกอยู่ภายในรถด้วย 

โดยคนร้ายได้ขับรถราชการที่ขโมยมาหลบหนีการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุดเฉพาะกิจ ไปทางวัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา ก่อนจะขับออกไปประตูด้านหลังของวัด ซึ่งในช่วงนี้ได้ใช้อาวุธสงครามที่ติดมากับรถฮัมวี่ กราดยิงประชาชนบาดเจ็บอีกหลายราย ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด จากนั้นขับหลบหนีเข้าเมืองอีกครั้ง ก่อนขับรถเข้าไปที่ศูนย์การค้าเทอร์มินัล 21 โคราช ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดเฉพาะกิจได้ตามไล่ล่าตัวคนร้ายมาอย่างกระชั้นชิด ทำให้ขณะนี้คนร้ายไม่สามารถขับหลบหนีต่อไปได้ แต่ยังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช นอกจากนี้ยังมีเพลิงไหม้บริเวณห้างสรรพสินค้าดังกล่าว

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กันประชาชนห้ามไม่ให้เข้าหรือออกจากศูนย์การค้าฯ อย่างเด็ดขาด เบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากปมความขัดแย้งผลประโยชน์ทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ครอบครัวของผู้บังคับบัญชาผู้ก่อเหตุทำธุรกิจอยู่ 

ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุว่า กำลังรวบรวมรายละเอียด เรื่องดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :