ไม่พบผลการค้นหา
กรมการค้าภายในร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตรวจจับผู้ฝ่าฝืนกักตุน-ขายหน้ากากอนามัยเกินราคา ล่าสุดพบผู้กระทำผิด 10 ราย ชี้มีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท ฟากกรมพลาธิการ ทหารบกส่งทหาร 50 นายช่วยบรรจุหน้ากากอนามัย เตรียมจำหน่ายประชาชน

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ชี้แจงว่า จากกระแสข่าวและข้อร้องเรียนจากผู้บริโภคแจ้งว่ามีผู้ค้าหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือกักตุนสินค้าและปั่นราคาขายสูงกว่าความเป็นจริง สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งกรมการค้าภายในได้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วออกไปหาข้อเท็จจริงตามเบาะแสที่ได้รับแจ้งในเขต กทม. และปริมณฑล ในช่วงระหว่างวันที่ 5 – 6 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา รวม 218 ราย ปรากฏว่ามีผู้กระทำผิดตามที่มีการร้องเรียนจริง จำนวน 10 ราย ในเขตพื้นที่ลาดกระบัง ประเวศ ราชเทวี บางรัก พญาไท และสัมพันธวงศ์ 

โดยพฤติกรรมที่ตรวจสอบมีการขายหน้ากากสูงเกินสมควร สร้างความปั่นป่วนในราคาซื้อขายและมีบางรายมีสินค้าแต่ปฏิเสธการขาย แต่จะขายให้ในราคาที่ต้องการ คณะตรวจสอบจึงได้จับกุมผู้กระทำความผิดทั้ง 10 ราย ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีในกระทงความผิดเกี่ยวกับการสร้างความปั่นป่วนราคาขายให้สูงกว่าความเป็นจริง ในมาตรา 29 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

สำหรับในพื้นที่ต่างจังหวัด กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการเป็นกรณีเร่งด่วนให้พาณิชย์จังหวัด ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จัดคณะเคลื่อนที่เร็วออกตรวจสอบผู้มีพฤติกรรมปั่นป่วนราคาขายตามที่มีข้อร้องเรียน และดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิดอย่างจริงจังและเข้มงวดอีกทางหนึ่ง

นอกจากนี้ เพื่อลดปัญหาการหาซื้อหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือของผู้ที่จำเป็นต้องป้องกันตนเอง จึงขอให้ร้านค้าจัดให้มีปริมาณเพียงพอและจำหน่ายในราคาที่เป็นธรรม หากผู้ซื้อพบการกระทำที่ไม่ถูกต้องมีการตั้งราคาสูงเกินจริง หรือกักตุนสินค้า ขอให้แจ้งสายด่วน 1569 เพื่อกรมจะได้จัดส่งคณะเคลื่อนที่เร็วออกไปดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนในทันทีทันใด

อีกด้านหนึ่ง ในวันนี้ (7 ก.พ.) กรมการค้าภายในได้ประชุมร่วมกับองค์การอาหารและยา (อย.) และองค์การเภสัชกรรม เพื่อทำงานประสารร่วมกันในการบริหารจัดการสต็อกหน้ากากอนามัยและสินค้าป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส โดยในการบริหารจัดการด้านการแพทย์ อย.และองค์การเภสัชฯ จะดูแลรับผิดชอบ ส่วนการบริหารจัดการปริมาณการซื้อ-ขาย การดูแลราคา กรมการค้าภายในจะดูแลรับผิดชอบ เพื่อให้ภายในประเทศมีปริมาณหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์เพียงพอกับความต้องการใช้ของประชาชน

พร้อมกันนี้ยังได้รับความร่วมมือกับกรมพลาธิการ ทหารบกจัดส่งทหาร 50 นายมาช่วยบรรจุหน้ากากอนามัยจำหน่ายประชาชน โดยบรรจุแพ็กละ 10 ชิ้น ราคาชิ้นละ 2.50 บาท รวมเป็น 1 แพ็กราคา 25 บาท

โดยระหว่างการบรรจุหน้ากากอนามัยกำชับให้ทหารใส่ถุงมืออนามัย หน้ากากอนามัยในระหว่างการบรรจุ หลังจากมีคำวิจารณ์ในโซเชียลว่าบรรจุหน้ากากไม่สะอาด


กรมการค้าภายใน-วิชัย โภชนกิจ-หน้ากากอนามัยกรมการค้าภายใน-หน้ากากอนามัย-ทหาร-แพ็กหน้ากาก

ขณะที่เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ทหารสิงคโปร์ 1,500 นาย รวมตัวกันเพื่อแพ็กหน้ากากอนามัยจำนวน 5.2 ล้านชิ้น แบ่งเป็นแพ็กละ 4 ชิ้น ภายในเวลาแค่ 24 ชม. เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับชาวสิงคโปร์ โดยเริ่มจากพื้นที่เสี่ยงก่อน เพื่อให้ประชาชนใช้สวมใส่เวลามีอาการ หรือต้องออกจากที่พักป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในตอนนี้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง