ไม่พบผลการค้นหา
การกลับมาแสดงละครคู่กัน ของ บิวกิ้น พุฒิพงศ์ และ พีพี กฤษฏ์ ในซีรีส์ ‘แปลรักฉันด้วยใจเธอ’ ที่ นฤเบศ กูโน ผู้กำกับ ตั้งใจพัฒนาตัวละครเด็กผู้ชายในหลากมิติ

เป็นครั้งแรกที่ นาดาว บางกอก ผลิตซีรีส์ตัวละครชายรักชายเป็นนักแสดงนำ กับซีรีส์ ‘แปลรักฉันด้วยใจเธอ’ที่ผู้จัดทำขอให้คำจำกัดความว่าแนว Romantic Coming of age นำแสดงโดย บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร  และได้ บอส-นฤเบศ กูโน นั่งแท่นกำกับ ซึ่งเขาเคยมีผลงานซีรีส์ดัง ไม่ว่าจะเป็น Side by Side พี่น้องลูกขนไก่ และ My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน

‘แปลรักฉันด้วยใจเธอ’ เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของเด็กผู้ชาย 2 คน ท่ามกลางบรรยากาศสายลมและแสงแดดของเมืองภูเก็ต เพื่อนสมัยเด็กที่ห่างหายกันไปหลายปีอย่าง เต๋ (บิวกิ้น) และ โอ้เอ๋ว (พีพี) โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งที่โรงเรียนกวดวิชาภาษาจีน เพื่อเตรียมสอบแอดมิชชันเข้ามหาวิทยาลัย แต่ในเมื่อต่างฝ่ายต่างมุ่งมั่นจะสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเดียวกัน เพื่อนรักที่เคยร่วมฝัน จึงกลับกลายมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญ

วอยซ์ออนไลน์ สัมภาษณ์ นฤเบศ กูโน ผู้กำกับซีรีส์ชุดนี้ เขาเล่าด้วยรอยยิ้มกับผลงานชิ้นใหม่ ซึ่งที่มาของซีรีส์ชุดนี้ เริ่มมาจากตัวละคร เต่า และทิวเขา ในซีรีส์ รักฉุดใจนายฉุกเฉิน ที่ทีมงานได้ศึกษาคาแรกเตอร์ พูดคุยกับนักแสดง จนต่อยอดตัวละคร พัฒนาออกมาเป็นบทซีรีส์เรื่องใหม่ บอกเล่าความสัมพันธ์ของเด็กผู้ชาย 2 คน ที่มีวิวัฒนาการของตัวละคร เริ่มจากเป็นศัตรู เป็นเพื่อน เพื่อนสนิท กระทั่ง เลยนิยามคำว่าเพื่อนสนิท พร้อมด้วยบรรยากาศของความโรแมนติก แต่ในขณะเดียวกันระยะทางที่ตัวละครเดินทางก็จะมีการเติบโต

“เสน่ห์ของมันมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง นอกจากรายละเอียดของความเป็นเพื่อนต่างๆ รวมถึงการเติบโตที่เริ่มรู้สึกอะไรบางอย่างแปลกๆ ในตัวเองกับเพื่อนสนิท รายละเอียดทางความรู้สึก เราจะได้เห็นการเติบโตของตัวละครตลอดทาง รวมถึงมันไม่ใช่แค่เรื่องของเขา 2 คน เรื่องนี้ยังมีทั้งเรื่องครอบครัว ของทั้ง 2 ตัวละคร เรื่องเพื่อน การศึกษา การเรียน และการสอบแอดมิชชัน”

เเปลรักฉันด้วยใจเธอ

นฤเบส กูโน เล่าถึงความตั้งใจที่อยากสะท้อนในซีรีส์ คือต้องการให้เห็นเติบโตของเด็กวัยรุ่นของเด็กยุคปัจจุบันในทุกแง่มุม ทั้งครอบครัว ความรัก ความฝัน รวมทั้ง แง่คิดและระยะทางของตัวละครว่าจะเติบโตในทิศทางไหน

การต่อยอดตัวละครครั้งนี้ บอส ยังมองว่าเป็นข้อดีในการสร้างนักแสดง เพราะเรื่องนี้นำแง่ของบิวกิ้น และพีพี มาต่อยอดเป็นคาแรกเตอร์ โดยอาจจะมีอะไรคาบเกี่ยวคล้ายคาแรกเตอร์เต่า ทิวเขา ในบางมุม จนเกิดเป็นบทที่เหมาะสมกับตัวนักแสดง

“ความพิเศษของพีพีบิวกิ้น เขาเป็นเพื่อนสนิทกัน มันดีกับบท เพราะบทต้องการความเป็นเพื่อน ความเป็นเพื่อนสนิท หรือความที่เขาแตกกันทะเลาะกัน คือพวกเขามีทุกแง่มุมที่ทำให้มาต่อเติมบทในกระดาษ เพราะฉะนั้นมันจะมีหลายๆฉากตอนถ่ายทำเขาก็จะเพิ่มเติมใส่เข้าไปเยอะมาก ตอนนี้เขารู้สึกแบบนี้ ตอนนี้เขาอยากพูดคำนี้ มันก็เลยยิ่งทำให้บทยิ่งต่อยอดไปอีก ฉะนั้นครึ่งหนึ่งมาจากบท ครึ่งหนึ่งมาจากตัวน้องสองคน เขาอยากพูดแบบนี้ก็จะปล่อยอิสระให้เขาลองเล่นดู แล้วสุดท้ายเรามาดู จริงๆ ประโยคนี้ดีมากเลยนะเดี๋ยวเทคต่อไปพีพีเล่นอีกนะ บิวกิ้นเล่นดีมากอันนี้เวิร์ค แต่อันนี้พี่ว่ามันเยอะไป สมมติเขาเล่นสด เราค่อยๆ ปรับค่อยๆ จูนแก้ไปในแต่ละฉาก”

เเปลรักฉันด้วยใจเธอ

ด้านการถ่ายทำ กองถ่ายได้ยกกองไปอยู่ที่ภูเก็ต นาน 2 เดือน ด้วยเนื้อเรื่องที่ต้องการฉากโรแมนติกที่มีทั้ง ภูเขา ทะเล แม่น้ำ ซึ่งมีสถานที่ที่สวยงามหลายจุด มีวัฒนธรรมหลากหลาย และตอบโจทย์ผู้กำกับเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ บอส อยากให้ผู้ชมซีรีส์ ที่เคยชื่นชอบผลงานของเขา รวมทั้งแฟนๆ ของ 2 นักแสดง พีพี และ บิวกิ้น ได้ติดตามซีรีส์ชุดนี้ ทั้ง 5 ตอน เพราะเนื้อหาที่ไม่เพียงให้ความบันเทิง แต่ยังแฝงแง่คิด

เเปลรักฉันด้วยใจเธอ