เทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เฟซบุ๊กไลฟ์กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มสามัคคีประชาชน ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ว่า เป็นการชุมนุมที่เกิดจากเงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหลัก ซึ่งตนเห็นด้วยกับ จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ได้เคยเตือนรัฐบาลแล้ว หากไม่แก้รัฐธรรมนูญ ไม่ทำตามที่แถลงต่อรัฐสภา ถูกม็อบไล่แน่ ขอรัฐบาลอย่าสร้างเงื่อนไขขัดแย้งโดยไม่จำเป็น” ซึ่งเป็นความจริงที่รัฐบาลประเมินสถานการณ์ การชุมนุมเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่ำเกินไป ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มต้นตั้งแต่กลุ่มคณะราษฎร กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มรีเดม หรือกลุ่มต่างๆ ล้วนเกิดขึ้นจากเงื่อนไขข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น

รัฐบาลไม่เอาจริงเอาจัง

สำหรับตนได้แสดงความเห็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาหลายครั้ง ได้จุดประกายให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหารัฐธรรมนูญเป็นคนแรก ของฝ่ายรัฐบาล เพื่อให้เป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันนโยบายเร่งด่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา แต่รัฐบาลกลับไม่เอาจริงเอาจัง หรือประกาศตัวเป็นเจ้าภาพในการเป็นผู้นำนำการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง จึงเป็นที่มาของการชุมนุม และพัฒนาจากเงื่อนไขข้อเรียกร้อง จากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาถึงการขับไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเลยเถิดไปถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

อย่างเช่นการชุมนุมของกลุ่มสามัคคีประชาชนในวันนี้ มีบางฝ่ายพยายามสร้างภาพว่า เป็นการชุมนุมของจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. จึงมีการระดมกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาต่อต้าน เพื่อดิสเครดิตการเคลื่อนไหวของจตุพร ทั้งที่ข้อเท็จจริงจุดเริ่มต้นเกิดจากเวทีเสวนา ที่กลุ่มญาติวีรชนเดือนพฤษภาคม 53 เป็นผู้ประสาน จึงทำให้เจ้าภาพของการชุมนุมในวันนี้น่าจะเป็นของคนหลายกลุ่ม หลายสีเสื้อ น่าจะมีตั้งแต่ กลุ่มนปช. กลุ่ม กปปส. กลุ่ม คปท. กลุ่มพันธมิตร สมัชชาคนจน กลุ่มคณะราษฎร กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม คนเสื้อเหลือง คนเสื้อแดง คนเสื้อหลากสี หรือสรุปรวมรวมกันว่าเป็นการสามัคคีชุมนุมของกลุ่มคน ที่ไม่เอาพลเอกประยุทธ์ และคณะคสช. น่าจะตรงประเด็นมากที่สุด