ไม่พบผลการค้นหา
ศาลมีคำสั่งให้คุ้มครอง ‘แทนไท ณรงค์กูล’ จากการละเมิดของ ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ โดยมีคำสั่งให้จำเลยลบข้อมูลบนระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหมดที่ละเมิดต่อโจทก์ในทุกกรณีโดยทันที

วันที่ 4 ก.พ. 2566 นิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ กล่าวว่า ภายหลังจากวันที่ 3 ก.พ. 2566 ที่ศาลอาญามีคำสั่งให้รับคำฟ้องคดีดำหมายเลข อ.302/2566 และศาลแพ่งมีคำสั่งรับคำฟ้องคดีดำหมายเลข พ 553/2566 พร้อมนัดไต่สวนในวันที่ 24 เม.ย. 2566 จากกรณีที่ แทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้ยื่นฟ้อง สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการ สนธิทอล์ค (Sondhitalk) ต่อศาลแพ่งและศาลอาญา รัชดาฯ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและ ละเมิด โดยเรียกค่าเสียหายจำนวน 1,000 ล้านบาท พร้อมขอให้ศาลพิจารณาไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราวให้ สนธิหยุดกระทำการเผยแพร่ข้อความและข้อมูลที่หมิ่นประมาทนั้น 

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 ในวันเดียวกัน (3 ก.พ.) ศาลแพ่งได้พิจารณาไต่สวนฉุกเฉินแล้วมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว โดยมีคำสั่งว่า พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ทางไต่สวนของโจทก์เป็นที่น่าเชื่อว่า ขณะนี้ข้อความและรูปภาพที่จำเลยกระทำโดยกล่าวอ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของเว็บไซต์เล่นพนันออนไลน์ ฟอกเงิน และบริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นลักกระแสไฟฟ้ามาใช้ อันเป็นการกระทำที่ถูกฟ้องร้องยังคงบันทึกอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา และจำเลยมีพฤติกรรมที่จะกระทำซ้ำต่อไป อันทำให้โจทก์ได้รับความเดือดร้อนเสียหายต่อไปเนื่องจากการกระทำของจำเลย ดังนั้นคำร้องของโจทก์มีเหตุผลเพียงพอและจำเป็นที่จะคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษา

จึงมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยเผยแพร่รายการโทรทัศน์ออนไลน์ “สนธิทอล์ค” พูดหรือแสดงข้อมูลใด ๆ ให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าโจทก์เป็นเจ้าของเว็บไซต์เล่นพนันออนไลน์ ฟอกเงิน และบริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งโจทก์เป็นผู้ถือหุ้นลักกระแสไฟฟ้ามาใช้ รวมทั้งให้จำเลยปิดกั้นมิให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงคลิปรายการโทรทัศน์ ข้อความ และรูปภาพที่ละเมิดต่อโจทก์ทั้งหมด ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ทุกช่องทาง เป็นการชั่วคราวในระหว่างการพิจารณา จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254(2)./

ด้านแทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า “ผมขอกราบขอบพระคุณกระบวนการยุติธรรมของศาล ที่ช่วยให้ประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีกระบอกเสียงที่ใช้โน้มน้าวหรือชี้ชวนประชาชนให้เข้าใจผิด ได้มีหนทางในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเอง ที่ผ่านมาผมได้รับผลกระทบอย่างมากจากการถูกกล่าวหา ให้ร้าย ทำให้ประชาชนในประเทศจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิด และเกิดความเสื่อมเสียทั้งทางด้านธุรกิจ ไปจนถึงชีวิตส่วนตัวเป็นอย่างมาก แต่ในวันนี้ผมได้รับความเมตตาจากศาลที่มีคำสั่งคุ้มครองให้เขาหยุดการกระทำที่ทำร้ายผมตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา นับจากนี้ เรื่องทั้งหมดได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ผมพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อให้ความจริงปรากฏสู่สาธารณชนต่อไปครับ”