21 ธ.ค. นางอโณมา คุ๊ก (เมจิ) Fitness Idol อดีตนักแสดงและพิธีกร เข้าแจ้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI กรณีสูญเงินจากบัตรเครดิตที่ผูกบัญชีกับ Facebook Page จำนวนเงิน 1.4 ล้านบาท โดยเมจิเผยว่า เธอเพิ่งทราบเรื่องเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากจะเดินทางไปต่างประเทศ และอยากเคลียร์ยอดบัตรเครดิตก่อน จึงพบว่ามีการชำระผ่านบัตรเครดิตเพื่อการโฆษณาเฟซบุ๊กเพจ ‘Meiji Anorma’ เป็นเงินจำนวนเงินกว่า 30,000 บาท หลายรอบ รวมแล้วยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตผ่านเฟซบุ๊ก 2 วันอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท จึงคิดว่าต้องมีอะไรผิดพลาด จึงตรวจสอบบัญชีอื่นๆ ที่ผูกไว้กับเฟซบุ๊กอีก 3 บัญชี พบว่ามีการใช้จ่ายลักษณะนี้เช่นกัน ยอดเสียหายรวม 1.4 ล้านบาท
เมจิ เปิดเผยว่า เพจเฟซบุ๊กของของเธอเป็นเพจเกี่ยวกับการออกกำลังกาย ไม่เน้นขายของ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เงินในการโฆษณาที่สูงมากนัก ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณหลักพันบาท และเฟซบุ๊กเพจของเธอก็ไม่ได้มียอดคนดูหรือผู้ที่กดติดตามเพิ่มขึ้นตามจำนวนเงินที่เสียไป โดยทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ สืบทราบว่ามียอดคนดูที่ควรจะมาอยู่ในเพจเฟซบุ๊กนี้กระจายไปอยู่ในเพจอื่นประมาณ 4-5 เพจ
หลังจากทราบว่ามีการกระทำลักษณะนี้จึงรีบอายัดบัตรเครดิต และประสานแจ้งปัญหากับทางธนาคาร ให้ยกเลิกบัตรเครดิตทุกใบ รวมถึงเปลี่ยนรหัสผ่านทุกอย่างให้รัดกุมมากขึ้น แต่หลังจากเปลี่ยนแล้วก็ยังมีการล็อกอินเข้ามายังเพจได้ ซึ่งจากตรวจสอบอย่างละเอียดด้วยตัวเอง พบว่าพฤติกรรมของกลุ่มมิจฉาชีพมีการล็อกอินเฟซบุ๊กที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอกำลังตรวจสอบและประสานงานกับทางธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เผยว่าการกระทำลักษณะนี้มีมาแล้ว 3-4 ปี ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่พยายามรวบรวมข้อมูลและตรวจสอบต่อไป อาจจะต้องใช้เวลา พร้อมทั้งยังเตือนประชาชนที่ต้องนำบัตรเครดิตผูกกับเฟซบุ๊กว่าต้องเก็บข้อมูลบัตรเครดิตไว้เป็นความลับ และตั้งค่าให้ระบบแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรม หากใครได้รับความเสียหาย��นลักษณะนี้ควรประสานกับทางดีเอสไอ เพื่อจะได้มีข้อมูลในการสืบเรื่องต่อไป
โดยเธอตั้งใจให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์กับผู้ที่ผูกบัตรเครดิตไว้กับเฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรม หากเกิดการกระทำลักษณะนี้ สิ่งที่แอดมินควรทำคือ เปลี่ยนรหัสผ่านให้แน่นหนาที่สุด และไม่ควรเหมือนกับรหัสผ่านของอะไรเลย เวลาเข้าใช้อย่าตั้งเป็นล็อกอินอัตโนมัติ หมั่นสังเกตและตรวจสอบบัญชีที่เรานำไปผูกกับเฟซบุ๊กอย่างสม่ำเสมอ หากมีอะไรผิดปกติควรเก็บหลักฐานไว้ เพราะเฟซบุ๊กเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่หลายคนใช้ในการสร้างรายได้ อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ และมีอิทธิพลกับบุคคลทั่วไป หากเป็นไปได้เธออยากให้เฟซบุ๊กมีการตั้งคอลเซ็นเตอร์ที่สามารถพูดคุยกับคนจริงๆ เพราะทุกครั้งเวลามีปัญหาก็จะมีระบบอัตโนมัติ หรือการพูดคุยผ่านอีเมลล์เท่านั้น ควรสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการที่นำสถาบันการเงินมาผูกกับเฟซบุ๊ก