ไม่พบผลการค้นหา
เพนกวินเชื่อ เงื่อนไขการประกันตัว ไม่สร้างผลกระทบต่อการเคลื่อนไหว เพราะการที่ประชาชนออกมาพูดความจริง ไม่ได้ทำให้สถาบันกษัตริย์เสื่อมเสียลง ส่วนเรื่องห้ามก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้จัดการชุมนุมอย่างสันติ และจะร่วมการชุมนุมอีกแน่นอน หลังวิกฤติโควิดผ่านพ้นไปแล้ว ย้ำยังเป็นคนเดิม และการต่อสู้เพื่อปฏิรูปสถาบันกษัตริย์จะดำเนินต่อไป

หลังจากได้รับการประกันโดยมีเงื่อนไขไม่ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ไม่กระทำการใดๆ ที่ทำให้สถาบันกษัตริย์เสื่อมเสียอีก ล่าสุดวันนี้ เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ได้แสดงความเห็นถึงกรณีการถูกขังสั่งเป็นเวลากว่า 93 วัน และเงือนไขการประกันตัวที่ตนยินยอมรับเพื่อให้ได้รับอิสรภาพว่า การคุมขังตน 93 วัน และการอดอาหารประท้วงความอยุติธรรมเป็นเวลา 57 วันของตนสิ้นสุดลงแล้ว โดยที่เมื่อวานนี้ ศาลได้คืนสิทธิประกันตัวให้ตนและแอมมี่ แม้จะเป็นการประกันตัวโดยที่ศาลกำหนดเงื่อนไขมาบางประการ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขที่ตั้งขึ้นเพื่อสกัดกั้นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ตนจะถือว่าการที่ศาลเอาเรื่องทางการเมืองมาตั้งเงื่อนไขนี้เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องพิจารณาตัวเองว่าดำรงตนในความยุติธรรมหรือไม่ อย่างไรก็ดี นี่คือการวางบรรทัดฐานว่าคดีมาตรา 112 ก็มีสิทธิได้รับการประกันตัว จากเดิมที่ในอดีตนั้นแทบไม่มีการได้ประกันตัวเลย และเชื่อว่ากฎหมายป่าเถื่อนมาตรานี้จะถูกยกเลิกไปในไม่ช้า

ในส่วนของเงื่อนไขนั้น เห็นว่าไม่ได้ขัดข้องอะไรต่อการเคลื่อนไหว เพราะเงื่อนไขข้อที่ว่าห้ามมิให้สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์นั้น ก็ไม่เห็นว่าตนจะสร้างความเสื่อมเสียอะไรให้สถาบันกษัตริย์ เพราะไม่คิดว่าสถาบันกษัตริย์จะเสื่อมเสียลงเพียงเพราะการที่ประชาชนพูดความจริง เช่นเดียวกับเรื่องการเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 ทวงคืนทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ยกเลิกกองกำลังส่วนพระองค์ เหล่านี้ไม่เห็นว่าจะสร้างความเสื่อมเสียให้สถาบันกษัตริย์ได้อย่างไร หากจะมองว่าการเรียกร้องให้กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องเสื่อมเสีย ก็คงจะต้องถามกันต่อว่าประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์เป็นประมุขหรือปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์กันแน่

"ดังนั้นแล้ว สำหรับผม การต่อสู้เพื่อปฏิรูปสถาบันกษัตริย์จะดำเนินต่อไป" เพนกวิน ระบุ

สำหรับเงื่อนไขเรื่องห้ามเข้าร่วมการชุมนุมที่ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองนั้น ยืนยันว่าตลอดการต่อสู้ที่ผ่านมา ตนยึดมั่นในหลักการไม่ใช้ความรุนแรง การชุมนุมที่ตนเข้าร่วม หรือได้มีส่วนร่วมจัดนั้นล้วนแต่เป็นการชุมนุมโดยสงบ สันติ และปราศจากอาวุธทั้งสิ้น เท่าที่เห็นก็มีแต่จะไม่สงบบ้างเพราะถูกเจ้าหน้าที่ ผู้ชุมนุมฝ่ายรัฐ และผู้ไม่ประสงค์ดีมาใช้กำลังเพียงเท่านั้น ดังนั้น จึงเห็นว่าเงื่อนไขข้อนี้จะไม่เป็นอุปสรรคในการต่อสู้เช่นกัน และพร้อมที่จะเข้าร่วมทุกกิจกรรมหลังจากที่วิกฤติการณ์โรคระบาดระลอกนี้ (ซึ่งเกิดจากความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล) ได้ผ่านพ้นไปแล้ว

การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจะยังดำเนินต่อไปด้วยความเข้มข้นและเข้มแข็ง การต่อสู้ของเราดำเนินอยู่บนสัจธรรมความจริง เพราะไม่มีพลังใดจะยิ่งใหญ่เท่าพลังแห่งความจริง และความจริงย่อมเป็นสิ่งนิรันดร์ประดุจดวงดาว เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่มุมใดของฟ้า ดวงดาวก็จรัสแสง เช่นเดียวกับความจริง ไม่ว่าจะอยู่ในกรงขัง ในเครื่องทรมาน หรือที่หลักประหาร ความจริงก็ยังคงเป็นความจริงที่ทรงพลังและไม่มีวันตาย

"ก้าวต่อไปเฉพาะหน้า เราจะต้องช่วยกันปลดปล่อยผู้พูดความจริงอีกหลายคนที่ยังถูกจองจำอย่างไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นทนายอานนท์ พี่ไมค์ ระยอง แฟรงค์ ณัฐชนน และอีกหลาย ๆ ท่าน เราผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายยังจะต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ให้เห็นอย่างสมบูรณ์ว่าการพูดความจริงไม่ผิด และความเท็จไม่อาจคุมขังปิดบังความจริงได้ตลอดไป

ผมยังคงเป็นผม และยังคงศรัทธาในความจริงที่ว่าไม่มีใครหมุนเข็มนาฬิกากลับได้ และสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงซึ่งกำลังพัดโบกจะพาเราไปสู่อีกด้านหนึ่งของขอบฟ้าในไม่ช้านี้" เพนกวิน ระบุ

ส่วนในระหว่างนี้ ตนขอพักฟื้นร่างกาย และหาอะไรกินก่อนจะเดินไปกับพี่น้องทุกท่านอีกครั้ง ตนยังคงเป็นคนเดิม สู้เพื่ออุดมการณ์ดังเดิม และจะมุ่งมั่นต่อการต่อสู้มากกว่าเดิม