ไม่พบผลการค้นหา
'นวัธ' ส.ส.ขอนแก่นเปิดศึกวิวาทกับ 'ยุทธพงศ์' โดยนำชายแปลกหน้า 2 คนทำร้ายร่างกายด้วยการตบที่ศีรษะต่อหน้าหัวหน้าพรรคเพื่อไทย - แกนนำพรรค ด้าน 'ยุทธพงศ์' พร้อมเข้าร้องต่อ ผบ.ตร.ขอกำลังตำรวจมาคุ้มกันความปลอดภัย

เมื่อเวลา 14.30 วันที่ 10 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.มักกะสัน เดินทางมาที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ เพื่ออำนวยความปลอดภัยแก่ นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียรส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย หลังมีรายงานข่าวว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันกลางห้องทำงานระดับผู้ใหญ่ของพรรคกับนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ซึ่งหากย้อนไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งคู่มีปัญหา กระทบกระทั่งกันในการอภิปรายที่สภาผู้แทนราษฏร 

จากนั้นระหว่างที่เจ้าหน้ากำลังพาตัวนายยุทธพงษ์ ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายยุทธพงษ์ บอกว่าขณะที่กำลังพูดคุยกับ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองหัวหน้าพรรค นายเกรียง กัลป์ตินันท์ และ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ขณะนั้นนายนวัธ ได้เดินเข้ามาพร้อมกับชายแปลกหน้า2 คน และล็อกตัว จากนั้นนายนวัธได้เข้ามาทำร้ายร่างกายด้วยการตบเข้าที่ศีรษะ จากนั้นทางหัวหน้าพรรคก็ได้เข้ามาห้ามปราม ทำให้ส่วนตัวไม่กล้าออกจากห้องไปไหนเนื่องจากกังวลในความปลอดภัย จึงได้ติดต่อไปยังตำรวจเพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่มารับตัวไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ

นวัธ เพื่อไทย b5217f815cea52ead3104a.jpg

(นวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย)

นายยุทธพงษ์ ยืนยันว่าส่วนตัวไม่เคยมีเรื่องบาดหมางระหว่างกันมาก่อน เพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากการอภิปรายในสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องนี้ไม่มองว่าจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคแต่เป็นเรื่องของความปลอดภัยของตัวเอง 

ทั้งนี้นายยุทธพงษ์ ระบุว่าในวันที่ 11 ก.ย.จะเดินทางไปพบผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อพูดคุยและขอกำลังเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลความปลอดภัยหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

’นวัธ’ ขอโทษ ประชาชน-ผู้ใหญ่ในพรรค หลังขอเคลียร์ใจกับ ‘ยุทธพงศ์’

จากนั้นเวลา 18.20 น. มีรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ได้มอบหมายให้นายวรวัจน์ เอื้ออภิญกุล แกนนำของพรรค ติดต่อนายนวัธ เตาะเจริญสุขส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เพื่อให้ความชัดเจนกับสื่อมวลชน

โดยนายนวัธ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนี้ไม่มีอะไร เมื่อลูกผู้ชายโดนหยามศักดิ์ศรีก็เกิดอารมณ์เป็นธรรมดา ซึ่งตนได้ขอโทษผู้ใหญ่ และสมาชิกพรรค รวมถึงขอฝากขอโทษไปถึงประชาชนถึงสิ่งที่ปรากฎออกไป วันนี้ไม่ได้มีใครเป็นนักเลง หรือมือปืน ตนมาพร้อมน้องชาย ซึ่งที่มาที่พรรคเพื่อมาแจกเสื้อมวย ส่วนที่เข้าไปในห้องหัวหน้าพรรค เพราะคำพูดที่ถูกเหยียดหยาม ตนคิดว่าไม่ถูกต้อง จึงอยากเรียกมาคุย มาเคลียร์​ข้างๆห้องหัวหน้า ไม่เช่นนั้นตนจะกล้าเข้าไปในห้องหัวหน้าหรือ ไปทำสุ่มสี่สุ่มห้าหัวหน้าจะได้ดีดตนออกมา ฉะนั้น หัวหน้าพรรคจึงได้บอกตนว่าให้ยุติ รวมถึงผู้ใหญ่ในพรรค และประธานยุทธสาตร์ ก็สั่งให้ตนยุติ ส่วนตัวก็พร้อมที่จะยุติ เพราะตนไม่ใช่คนเกเร หรือเป็นนักเลงหัวไม้ ตนเป็นเพียงโปรโมเตอร์เอานักมวยขึ้นชกกันเท่านั้นเอง ต่อยคนไม่ค่อยเป็นหรอก 

ส่วนสิ่งที่ตนเองพูดเหมือนเป็นหนังคนละม้วนกับที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พูด นายนวัธ กล่าวว่า นายยุมทธพงศ์ เป็นคนชอบออกสื่อ ตนเองไม่ชอบออกสื่อ แต่วันนี้จำเป็น ต้องออกมาพูดให้ฟังว่าไม่มีอะไร ผู้ใหญ่นั่งอยู่ในนั้นสิบกว่าคนก็เห็น ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้กระทบกับภาพลักษณ์ของพรรคตนจึงออกมาขอโทษ และขออภัยกับพี่น้องประชาชนด้วย ซึ่งเรื่องนี้จริงๆไม่น่าเกิดขึ้น แต่หากใครดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรี ลูกผู้ชายคงทนไม่ได้ที่จะต้องมีการเคลียร์กันเฉยๆ 

ส่วนคำพูดไหนที่รู้สึกว่าถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม นายนวัธ กล่าวว่า ตนไม่อยากพูด เขาใช้คำพูดไม่ดี ตั้งแต่เมื่อวันที่พฤหัสบดี ที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ที่มีการประชุมสภา เรื่องกมธ.ทางด่วนแล้ว 

ส่วนขณะนี้มีการแจ้งความดำเนินคดีกันแล้ว นายนวัธ กล่าวว่า เป็นสิทธิของเขา เขาจะแจ้งอะไรก็ได้ จะพูดอะไรก็พูดได้ พยานหลักฐานทุกคนก็มี ทั้งนี้ยืนยันว่าที่พามาไม่ใช่มือปืน แต่เป็นคนขับรถของตน อย่างไรก็ตาม เมื่อมติพรรคออกมาว่าให้ยุติเรื่อง เราก็ต้องทำตาม เพราะเป็นคนของพรรค ก็ต้องรักษากฎกติกาของพรรค จริงๆแล้วเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องของคนสองคนที่ต้องมาพูดคุยกันว่าการที่มาพูดในสภา แล้วมาพาดพิงถึงตนนั้นไม่ถูกต้อง ไม่ใช่สุภาพบุรุษ คนที่เป็นสุภาพบุรุษจะไม่พูดกันแบบนี้ เพราะเรื่องไม่ใช่ความจริง 

ด้านนายวรวัจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องความเห็นของทั้งสองท่านที่ไม่ตรงกัน แล้วมีการถกเถียงกันเล็กน้อย แต่ไม่มีอะไรมาก จึงบอกให้ทุกคนใจเย็น มีอะไรให้มาพูดคุยกัน ซึ่งในส่วนของผู้บริหารพรรคก็ได้มีการพูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่าย และเรื่องนี้เราคิดว่าต้องจบ ไม่น่าจะมีอะไรต่อ ทั้งนี้ พรรคให้หยุดทั้ง 2 ฝ่าย 

ส่วนทางพรรคเพื่อไทยจะมีมาตรการลงโทษหรือไม่ นายวรวัจน์ กล่าวว่า ไม่มี เพราะเป็นเพียงแค่เรื่องที่ต้องพูดคุยกัน ซึ่งขณะนี้พูดคุยกันแล้ว ไม่มีประเด็นต่อแล้ว