ไม่พบผลการค้นหา
กทม.สำรวจจุดบริการผู้ป่วยฉุกเฉินและวางแผนจัดระเบียบนกพิราบในเส้นทางขบวนพยุหยาตราสถลมารค งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

นพ.พิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจเส้นทางขบวนพยุหยาตราสถลมารค เนื่องในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมี นพ.สมชาย จึงมีโชค ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ นพ.วงวัฒน์ ลิ่วลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย พร้อมผู้บริหารในสังกัดสำนักการแพทย์และสำนักอนามัย ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล โดยได้ติดตามแผนการระบายและส่งต่อกรณีมีผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน เพื่อกำหนดว่าต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างไร รวมถึงการกำหนดจุดจอดรถกู้ชีพฉุกเฉินให้มีความเหมาะสมครอบคลุมตลอดเส้นทางเสด็จฯ เพื่อความพร้อมในการนำผู้ป่วยฉุกเฉินส่งต่อไปยังโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลใกล้เคียง 

นอกจากนี้ยังสำรวจจุดเสี่ยงที่จะมีนกพิราบในเส้นทางเสด็จฯซึ่งก่อนหน้านี้ กทม.ได้ขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้อาหารนกพิราบแต่ยังพบผู้ฝ่าฝืน ขณะนี้สำนักอนามัยได้คิดค้นสารที่สกัดจากเมล็ดองุ่น เมื่อนกสูดกลิ่นสารสกัดนี้เข้าไปนกจะเกิดอาการระคายเคืองและไม่ชอบ ซึ่งจะทำให้นกอพยพออกจากบริเวณที่ฉีดพ่นสารสกัดดังกล่าว 

ทั้งนี้ สารสกัดจากเมล็ดองุ่นจะไม่ส่งผลกระทบต่อคนและในสภาวะอากาศร้อนๆ สารสกัดดังกล่าวจะระเหยหมดไป ภายในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง โดยจากการสำรวจเส้นทางพบว่ามีประมาณ 8 จุด ที่จำเป็นต้องฉีดพ่นสารสกัด ประกอบด้วย บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ถนนราชดำเนินกลาง โรงแรมรัตนโกสินทร์ แพร่งภูธร สวนสราญรมย์ สนามหลวง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร และถนนอัษฎางค์ เป็นต้น 

และหลังจากนี้จะลงพื้นที่ตรวจสอบเป็นระยะๆ พร้อมทำความเข้าใจกับประชาชนในการงดให้อาหารนกในบริเวณดังกล่าว ส่วนการฉีดพ่นสารสกัด จะดำเนินการหลังจากการซ้อมใหญ่ขบวนพยุหยาตราสถลมารคต่อไป

สำหรับจุดให้บริการทางการแพทย์ แบ่งออกเป็น 6 โซน ครอบคลุมเส้นทางขบวนพยุหยาตราสถลมารค (จากพระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดเชตุพนวิมลมังคลาราม แต่ละโซนจะมีหน่วยงานทางการแพทย์คอยกำกับดูแล ประกอบด้วย โซน 1 รพ.เลิดสิน, โซน 2 รพ.นพรัตนราชธานี ,โซน 3 รพ.วชิรพยาบาล ,โซน 4 รพ.ราชวิถี , โซน 5 รพ.กลาง และโซน 6 กรมการแพทย์ทหารเรือ