ไม่พบผลการค้นหา
'ครูมานิตย์' เผย 'สส.เพื่อไทย' มติเอกฉันท์หากเสนอชื่อ 'แพทองธาร' นั่งหัวหน้าพรรค คุณสมบัติพร้อมแม้ไม่ใช่ สส. ชม 'ชัยธวัช' บุคลิกดีเหมาะผู้นำฝ่ายค้าน แต่ถ้าขับ 'ปดิพัทธ์' ออก อาจขาดความชอบธรรม

วันที่ 25 ก.ย. ที่อาคารรัฐสภา ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เผยถึงรายชื่อแคนดิเดตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า ยังไม่เป็นที่ประจักษ์ แต่เท่าที่ฟังดู รวมถึงส่วนตัวแล้ว หากถามว่าใครเหมาะที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่สุด ก็ต้องขอต้องฟันธงเลยว่าเป็น แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย 

ด้วยประสบการณ์ทางการเมืองวันนี้ ที่มีความแข็งแกร่งทางการเมืองในระดับหนึ่งแล้ว เพราะ ช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็ได้มีการเดินสายไปทั่วประเทศ และได้มีการสัมผัสกับผู้แทน คิดว่า แพทองธาร ไม่เป็นรองใคร และในการประชุม สส. ของพรรคทุกวันอังคาร แพทองธาร ก็ได้เข้าร่วมพูดคุยพบปะและสอบถาม รวมถึงยังเป็นคนรุ่นใหม่ และมีสิ่งที่น่าจะได้เปรียบพรรคอื่นก็คือเป็นสุภาพสตรีที่จะมาทำงานการเมือง คิดว่าน่าจะพร้อมที่สุดในพรรคเพื่อไทยในขณะนี้

เมื่อถามว่า เท่าที่ฟังจากเสียง สส. ของพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางเดียวกันใช่หรือไม่ ครูมานิตย์ กล่าวว่า 100% หากมีการเสนอมาก็จะมีการโหวตเป็นเอกฉันท์แน่นอน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะความเป็นชินวัตรอย่างเดียว แต่ แพทองธาร ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขามีความพร้อม 

"ทั้งภูมิรู้ รวมถึงพื้นฐานทางการเมืองที่ได้ติดตาม ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก ผมคิดว่า แพทองธาร คงซึมซับเรื่องพวกนี้มาพอสมควร สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ แพทองธาร มีคือความเป็นคนที่มีจิตอาสา ไม่เคยรังเกียจพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือคนรวย ซึ่งคุณสมบัติของเธอเพรียบพร้อมทุกอย่าง" 

ครูมานิตย์ ยืนยันว่า แม้ แพทองธาร ไม่ใช่ สส. ก็สามารถทำหน้าที่หัวหน้าพรรคได้ เพราะหัวหน้าพรรคไม่จำเป็นต้องเป็น สส. เพียงแค่เป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าของพรรคก็โอเคแล้ว การวิจารณ์ทางการเมืองแล้วแต่มุมมองของคนที่จะวิจารณ์ ทุกเรื่องในทางการเมืองมีแต่บวกกับลบ อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน บางครั้งการเป็นหัวหน้าพรรคแล้วมาเป็น สส. ก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มาก หากเป็นหัวหน้าพรรคที่ไม่ได้พร้อม

เมื่อถามถึงกรณีของ ชัยธวัช ตุลาธน ที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลแล้ว และคาดว่าจะได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านในอนาคต ครูมานิตย์ กล่าวว่า "ไม่ต้องคาด เขาเป็นผู้นำฝ่ายค้านแน่นอน" 

ครูมานิตย์ ยังชี้ว่า เรื่องที่ต้องจับตามองต่อไปคือ รองประธานสภาคนที่ 1 หรือ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าหลังจากที่กลับมาจากสิงคโปร์แล้ว พรรคจะดำเนินการอย่างไร จะกลับมานั่งเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ต่อ หรือให้ลาออก แต่อย่างไรก็ตาม หากเขาไม่ไปอยู่พรรคอื่น เขาก็ขาดคุณสมบัติ เพราะไม่สามารถแต่งตั้ง ชัยธวัชได้ ขอให้เป็นการตัดสินใจของพรรคก้าวไกล

“ส่วนคุณชัยธวัช ผมว่าเขาก็เป็นคนที่มีบุคลิกดี เหมาะที่จะเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลในวันนี้ ก็ดีใจด้วย เพราะเป็นคนที่มีความรู้ และเป็นผู้ที่ทำงานเบื้องหลังความสำเร็จของพรรคก้าวไกลมายาวนาน ก็เห็นด้วยประการทั้งสิ้น สำหรับคุณศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อาจจะเป็นสุภาพสตรี จึงอยากจะให้คุณชัยธวัชที่มีความแข็งแกร่ง ที่จะทำงานเป็นผู้นำฝ่ายค้าน และผู้นำฝ่ายค้านก็มีหน้าที่หลายเรื่อง” ครูมานิตย์ กล่าว

ครูมานิตย์ ยังคาดว่า พรรคก้าวไกลคงจะตัดสินใจกันในสัปดาห์นี้ เพราะได้ยินข่าวว่าต้องรอให้ ปดิพัทธ์ กลับมาจากสิงคโปร์ก่อน เพราะจากเสนอชื่อ ชัยธวัช เป็นผู้นำฝ่ายค้านฯ ไม่ได้หากรองประธานสภาฯ ยังไม่ลาออกจากตำแหน่ง เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ

ส่วนหากมีการขับ ปดิพัทธ์ ออกไปอยู่พรรคอื่น อาจจะเกิดข้อร้องเรียนในสภา ให้มีการตรวจสอบหรือไม่ ครูมานิตย์ กล่าวว่า อาจจะไม่มีข้อร้องเรียน แต่เขาเลี่ยงบาลีเรื่องความชอบธรรมได้ การขับออกจะด้วยประเด็นอะไร 

"สมัยที่แล้วคนที่ถูกขับออกก็มีวลีเกิดขึ้นว่า เป็น งูเห่า งูจงอาง แล้ว ปดิพัทธ์ จะเป็นงูอะไร แต่ถามว่าเขาผิดกฎหมายหรือไม่ เขาไม่ได้ผิด แล้วจะใช้ข้อกล่าวหาอะไรที่จะขับ ต้องมีข้อกล่าวหาที่สังคมรับได้ เพราะคุณบอกว่าคุณเป็นพรรคการเมืองแนวใหม่ แต่พวกผมมันคนเก่าคนแก่ คุณจะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ แต่ออกมาแบบนี้ จะชอบธรรมหรือ" 

ครูมานิตย์ ได้ฝากผ่านสื่อมวลชนว่า อย่างน้อยมีคนที่ชื่อ ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ผู้แทนจากเมืองสุรินทร์ ลำบากใจมาก หากใช้วิธีการถูกขับออกมาเป็นรองประธานสภาฯ แล้ว หากมีใครคนใดคนหนึ่งกล่าวว่า ท่านประธานโดนขับ เหมือนตอนที่มีสมาชิกจากพรรคเขาเองบอกว่า ท่านประธานหมูกระทะ จนพรรคเพื่อไทย ต้องออกไปแก้ว่า พูดวลีเช่นนี้ไม่ได้ เพราะถือว่าคนที่นั่งบนบัลลังก์ศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลคงมีการหารือกันเต็มที่