ไม่พบผลการค้นหา
ศูนย์วิจัยพิว (Pew Research Centre) เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนใน 14 ประเทศพัฒนาแล้ว พบความรู้สึกเชิงลบต่อจีนพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในหลายประเทศ

ศูนย์วิจัยพิวสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่บรรลุนิติภาวะแล้วจำนวน 14,276 คน ใน 14 ประเทศที่มีประชาธิปไตยและเศรษฐกิจก้าวหน้า ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา เบลเยียม เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน สวีเดน สหราชอาณาจัร ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยเป็นการสำรวจความคิดเห็นผ่านทางโทรศัพท์ระหว่างวันที่ 10 มิ.ย.-3 ส.ค. 2563 พบว่าในแต่ละประเทศผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่รู้สึกไม่พอใจต่อจีน โดยในจำนวนนี้ 9 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สวีเดน สหรัฐฯ เกาหลีใต้ สเปนและแคนาดา มุมมองเชิงลบต่อจีนสูงสุดนับตั้งแต่ศูนย์วิจัยพิวเริ่มทำการสำรวจเมื่อกว่า 1 ทศวรรษที่ผ่านมา 

ผลสำรวจชี้ว่าในออสเตรเลีย 81% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่ารู้สึกไม่พอใจจีน เพิ่มขึ้นจากการสำรวจเมื่อปีที่แล้วถึง 24% สอดคล้องกับสถานการณ์ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างจีน-ออสเตรเลีย โดยออสเตรเลียถือเป็นผู้นำในการเรียกร้องให้นานาชาติสอบสวนต้นตอการระบาดของโควิด-19 ทำให้จีนใช้มาตรการทางการค้าตอบโต้ด้วยการระงับการนำเข้าเนื้อวัวออสเตรเลีย ขึ้นภาษีนำเข้าข้าวบาเลย์จากออสเตรเลีย และเริ่มตรวจสอบต่อต้านการทุ่มตลาดการนำเข้าไวน์ออสเตรเลีย 

ส่วนทัศนคติด้านลบต่อจีนในประเทศอื่นๆ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยในสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 74% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 19% ในเยอรมนีอยู่ที่ 71% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15% ส่วนในสหรัฐฯ อยู่ที่ 73% เพิ่มขึ้น 13%

การสำรวจนี้มีขึ้นท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่เริ่มต้นจากจีน และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งกำลังจะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. 2563 นี้ รวมถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในเรื่องของการค้าและบทบาทของบริษัทเทคโนโลยีจีนอย่างหัวเว่ยในชาติตะวันตก ซึ่งสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้ตัดหัวเว่ยออกจากเครือข่าย 5G 

ศูนย์วิจัยพิวยังรายงานว่า เมื่อนำค่าการสำรวจของทั้ง 14 ประเทศมาหาค่ากลาง พบว่า 61% มองว่าจีนจัดการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ได้ย่ำแย่ ขณะที่ 37% เชื่อว่าจีนทำได้ดี อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ก็ได้รับการประเมินแย่กว่าจีนจากการสำรวจประเด็นนี้ โดย 84% บอกว่าสหรัฐฯ จัดการรับมือการระบาดได้ไม่ดี 

ทั้งนี้ รายงานระบุว่ามุมมองมุมมองต่อการจัดการรับมือการระบาดใหญ่ของไวรัสมีอิทธิพลต่อทัศนคติของผู้คนต่อประธานาธิบดี ‘สีจิ้นผิง’ ของจีน โดยค่ากลาง 78% จากผู้ตอบแบบสอบถามทั้ง 14 ประเทศบอกว่า พวกเขามีความมั่นใจไม่มากนักหรือไม่มีความมั่นใจเลยว่าผู้นำจีนทำสิ่งที่ถูกต้องในเรื่องกิจการระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจนี้พบว่าในประเทศส่วนใหญ่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความเชื่อมั่นต่อสีจิ้นผิงมากกว่าประธานาธิบดี 'โดนัลด์ ทรัมป์' ของสหรัฐฯ โดยในเยอรมนี 78% บอกว่าไม่เชื่อมั่นในสีจิ้นผิง แต่มีถึง 89% ที่บอกว่าไม่เชื่อมั่นในทรัมป์  

ขณะที่ในมุมมองด้านความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศส่วนใหญ่โดยเฉพาะในยุโรป มองว่าจีนคือมหาอำนาจทางเศรษฐกิจชั้นนำของโลก โดยมีแค่สหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่คนตอบว่าสหรัฐฯ เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจชั้นนำของโลกมากกว่าจีน  

อ้างอิง The Guardian / The Straits Times / AP