ไม่พบผลการค้นหา
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แถลงเปิดตัวตั้งพรรคไทยภักดี ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ประกาศสู้ ก้าวไกล คณะก้าวหน้า ม็อบปลดแอก พร้อมส่งผู้สมัครในทุกเขต

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 20 ม.ค. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้ก่อตั้งกลุ่มไทยภักดี แถลงข่าวเปิดตัวการจัดตั้งพรรคไทยภักดี เพื่อยกระดับจากกลุ่มการเมืองเป็นพรรคการเมือง มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมี นพ.วรงค์ เป็นรักษาการหัวหน้าพรรค ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการเตรียมยื่นจดจัดตั้งพรรค

นพ.วรงค์ กล่าวถึงที่มาของการตั้งพรรคครั้งนี้ว่า ขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีจงใจจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ซึ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นว่าสถาบันกำลังตกอยู่ในอันตราย โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 50 บัญญัติไว้ว่า บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ตอนนี้มีความเคลื่อนไหวของคนหลายกลุ่ม จ้องล้มล้างสถาบัน ไม่ว่าจะเป็น ในชื่อเยาวชนปลดแอก ประชาชนปลดแอก กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มนักเรียนเลว กลุ่มราษฎร เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์ล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ใช้คำว่าปฏิรูปสถาบัน

นพ.วรงค์ เครือข่ายล้มล้างสถาบัน มีการปล่อยข่าวปลอม บิดเบือนสังคม สร้างความเกลียดชัง โดยมี ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าและ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อยู่เบื้องหลัง หลังจากที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบเมื่อต้นปี 2563 และขณะนี้จะเห็นองค์ประกอบ 3  ส่วนที่เกี่ยวข้องกับ 1) ม็อบ 3 นิ้ว 2) คณะก้าวหน้า 3) พรรคก้าวไกล ที่มีเป้าหมายการยกเลิกมาตรา 112

นพ.วรงค์ กล่าวว่า ไทยภักดีประเมินว่าวันนี้โครงข่ายเหล่านี้ได้กระจายไปทั่วประเทศ ดังนั้นการต่อสู้ของพวกเราจะตั้งรับเพียงอย่างเดียวไม่ได้แล้ว จึงถึงเวลาแล้วที่จะประกาศให้คนไทยได้รับทราบว่า เราจะจัดตั้งพรรคไทยภักดี โดยมีจุดยืนชัดเจน เพื่อสู้กับ พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และ ม็อบ 3 นิ้ว บนความเชื่อพื้นฐานว่าสังคมจะดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุข ต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์ และนักการเมืองที่มีคุณธรรม

“ยืนยันว่าเราไม่มีกลุ่มทุน ไม่มีนายทุน และไม่มีเจ้าของพรรค ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนจะให้โอกาสพวกเราได้เข้ามาทำหน้าที่หรือไม่  จึงถือโอกาสนี้เชิญชวนประชาชนทั้งประเทศเตรียมมาเป็นสมาชิกพรรคไทยภักดี เสียเงินคนละ 100 บาท เพื่อมาดูแลผลประโยชน์ของชาติกว่าล้านล้านบาท โดยเราพร้อมส่งผู้สมัคร ส.ส.ทุกเขตทั่งประเทศ”