ไม่พบผลการค้นหา
หน่วยงานด้านสุขภาพของฝรั่งเศสออกแคมเปญรณรงค์จำกัดการดื่มไวน์ไม่เกินวันละ 2 แก้ว ชี้การดื่มไวน์ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ ขณะที่คนฝรั่งเศสระบุ การดื่มไวน์เป็นเหมือนวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง

“Quoi, just two glasses?” แค่ 2 แก้ว ? แคมเปญรณรงค์ที่เชิญชวนให้คนฝรั่งเศสดื่มไวน์น้อยลงจากหน่วยงานด้านสุขภาพของฝรั่งเศสและสถาบันมะเร็งแห่งชาติของฝรั่งเศส(INCa) ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก โดยในแคมเปญดังกล่าวระบุว่า เพื่อสุขภาพควรดื่มไวน์ไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน และไม่ควรดื่มทุกวัน

เวียต เหงียน-เสิ่น หัวหน้าหน่วยงานด้านสุขภาพของฝรั่งเศสกล่าวว่า ประชากรผู้ใหญ่ประมาณ 10.5 ล้านคนพบว่ามีการดื่มที่เยอะเกินไป ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน รวมไปถึงการเป็นมะเร็ง ความดันโลหิตสูง ภาวะเลือดออกในสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจ  

นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่าในแต่ละปีคนฝรั่งเศสกว่า 41,000 คนเสียชีวิตจากการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นการเสียชีวิตที่มากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากการสูบบุหรี่

เหงียน-เสิ่น กล่าวโทษวัฒนธรรมการผลิตไวน์ของฝรั่งเศสว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนฝรั่งเศสดื่มแอลกอฮอล์ 

"วัฒนธรรมการผลิตไวน์ที่เก่าแก่ของฝรั่งเศสเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าว เนื่องจากผู้ผลิตไวน์ได้มีส่วนในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับไวน์ให้เกิดขึ้น"

ทางด้านผู้ผลิตไวน์อย่าง Languedoc AC วิจารณ์แคมเปญดังกล่าวว่า แคมเปญนี้จะสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้บริโภคเป็นอย่างมากรวมไปถึงการสร้างความรู้สึกผิดบาปให้แก่ผู้ที่ดื่มด้วย

ขณะที่ชาวปารีสคนหนึ่งกล่าวว่า การดื่มไวน์เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และเธอเติบโตมากับการดื่มไวน์อย่างแท้จริง ซึ่งครอบครัวของเธอนั้นจะมีไวน์อยู่บนโต๊ะอาหารเสมอเพราะมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับมื้ออาหาร


"มื้ออาหารจะไม่อร่อย หากปราศจากไวน์"


เธอยังกล่าวอีกว่า การดื่มไวน์ของเธอนั้นเป็นการผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยจากการทำงานต่างๆ ซึ่งเธอเริ่มดื่มไวน์ครั้งแรกตอนอายุประมาณ 12 ปี แม้ว่าตามกฎหมายของฝรั่งเศสนั้นจะอนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ได้เมื่ออายุ 18 ปี

นอกจากนี้ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเคยประกาศว่า เขาไม่มีนโยบายที่จะแบนการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งแน่นอน และกล่าวว่าผู้ที่เรียกร้องให้มีการแบนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นปล่อยวางเรื่องนี้เถอะ

อย่างไรก็ตามแคมเปญรณรงค์ให้คนดื่มไวน์น้อยละดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในฝรั่งเศส แต่เมื่อช่วงทศวรรษ1950 สมัยประธานาธิบดีปิแอร์ มงเดส์ก็มีแคมเปญรณรงค์ให้คนฝรั่งเศสดื่มไวน์น้อยกว่าหนึ่งลิตรในมื้ออาหารแต่ละมื้อ และในปี 1956 ฝรั่งเศสได้ออกนโยบาย ห้ามเสิร์ฟแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กที่มาอายุต่ำกว่า 14 ปีในโรงอาหารของโรงเรียน

รายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO)ระบุว่า การดื่มของชาวฝรั่งเศสนั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ทั่วไปและต่ำกว่าอีกหลายประเทศในยุโรป ซึ่งคนฝรั่งเศสดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉลี่ย 12.6 ลิตรต่อปี ขณะที่ชาวลิทัวเนียนั้นดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉลี่ยสูงถึง 15 ลิตรต่อปี คนเยอรมันนั้นดื่มเครื่องดื่มแฮลกอฮอล์เฉลี่ย 13.4 ลิตรต่อปี และกว่า 58 เปอร์เซ็นต์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในฝรั่งเศสคือไวน์ 

ที่มา the guardian / France24