ไม่พบผลการค้นหา
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมบรรยายพิเศษผ่านคลิปวีดีโอ ‘คนไทย ไร้จน’ จัดโดยกลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยจุดเริ่มต้นของแนวคิดการแก้ไขปัญหาความยากจน และสิ่งที่ทุกคนจะเผชิญความเสี่ยงที่จะกลายเป็นคนจนจากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้

วันที่ 14 ก.พ. ที่ลิโด้ กลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย จัดกิจกรรม‘คนไทย ไร้จน’ โดยมีทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านวิดิโอคอล เริ่มต้นพูดปัญหาความยากจนที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยหยิบยกคำพูดของ บิล เกตส์ ว่า ถ้าเราเกิดมาจน มันไม่ใช่ความผิดของเรา แต่ถ้าเรายังอยากจน มันเป็นความผิดของเราที่ไม่พยายามจะดิ้นรนแก้ปัญหา และถ้าเราพยายามแล้ว แต่ยังจน มันเป็นความผิดของรัฐบาล

อดีตนายกฯ กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีหน้าที่สร้างโอกาสให้กับประชาชนของตัวเองทุกคน เพื่อจะได้มีโอกาสสร้างฐานะและปรับตัวเองจากคนยากจนเป็นคนไม่ยากจน สิ่งเหล่านี้พูดง่ายแต่ทำยาก

ขณะที่ประเด็นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทักษิณกล่าวว่า ตอนที่อเมริกาเริ่มทำเรื่องฐานข้อมูลทางด้านพิมพ์ลายนิ้วมือครั้งแรก เขาใช้คำว่า spirit of times แต่ภาษาเยอรมันใช้คำว่า Zeitgeist แปลว่า spirit of times แปลว่าช่วงจังหวะของเวลาที่มีความลงตัวทุกอย่าง ความลงตัวคือมี 3 ข้อ ได้แก่

1. การสนับสนุนทางการเมือง (Political Support) 2. มีความเป็นผู้นำ (Leadership) ในการที่จะแก้ปัญหานั้นๆ 3. วิธีการ (Know-How) มีความรู้ในเรื่องนั้น

ทักษิณอธิบายต่อไปว่า เมื่อพิจารณาการสนับสนุนทางการเมือง (Political Support) ถือว่าความยากจน ไม่ใช่คนจน ความยากจนเป็นการบ่อนทำลายประเทศ เพราะฉะนั้นเราจะต้องไม่ให้มีความยากจนเหลืออยู่ เพราะความยากจนมีผลทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย

“สงครามยังไม่เกิด เรายังซื้ออาวุธ แต่วันนี้สงครามมันเกิดแล้วก็คือสงครามความยากจน มันต้องซื้ออาวุธเพื่อแก้ปัญหาความยากจน ไม่ใช่ซื้ออาวุธไปใช้สำหรับสงครามที่ยังไม่เกิด เพราะฉะนั้นวันนี้ การสนับสนุนทางการเมือง จึงเป็นหัวใจสำคัญ”ทักษิณ กล่าว

อดีตนายกฯ กล่าวอีกว่า เราจะใช้สูตรเดิมมาแก้ปัญหาโลกที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ได้ ต้องปรับสูตรหรือใช้บางส่วน ซึ่งอาจจะใช้ได้ไม่มากนัก เพราะของใหม่มันเปลี่ยนไปเร็วมาก เพราะฉะนั้นจะแก้ปัญหาไม่สำเร็จ ถ้าไม่มี 2 ข้อแรก

การแก้ไขความยากจน ในทัศนะทักษิณ ยังพูดถึงประเด็นที่ต้องรู้เท่าทัน เศรษฐกิจทุนนิยม จะชอบหรือไม่ชอบ แต่เราอยู่ในเศรษฐกิจทุนนิยม เราจะต้องหาทางเข้าใจแล้วสู้กับมันให้ได้

"วันนี้ชาวบ้านไม่มีเงินในการจะมาทำทุน ถ้าไม่มีเงินก็ลำบาก จะไปทำอะไรต้องใช้ทุนหมด จะเลี้ยงไก่ก็ใช้ทุน จะไปขายข้าวโพดในตลาดก็ต้องใช้ทุน การเข้าหาแหล่งทุนจึงเป็นเรื่องสำคัญ ก่อนที่จะคิดว่าจะเพิ่มรายได้อย่างไร" ทักษิณ กล่าว

นอกจากนี้ อดีตนายกฯ ยังเสนอถึงโมเดลทางเศรษฐกิจในการแก้ไขความยากจนว่า "วันนี้ต้องเสริมให้เขาอยู่ได้ มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพราะฉะนั้นจะเอาเงินที่ไหน เราให้ทุกคนรายงานรายได้ ทำบัญชี ทำแบบฟอร์มสรรพากร ถึงแม้ว่าคุณจะมีรายได้ต่ำยังไง ก็ทำแบบฟอร์มมา เราจะเห็นเลยว่า ใครมีรายได้เท่าไหร่ คนมีรายได้สูงก็โดนภาษี เราก็ Tax เป็น Positive Income Tax แต่คนมีรายได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ที่จะไม่สามารถอยู่อย่างมนุษย์ปกติได้ เราก็เติมให้เขาไป เขาเรียกว่าเป็น Negative Income Tax”

อดีตนายกฯ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองหลังรัฐประหาร 2549 กล่าวทิ้งท้ายว่า เราต้องคิดตั้งแต่วันนี้ ถ้าคิดช้ากว่านี้ คนชั้นกลางก็จะเป็นคนจนต่อไป ไม่ใช่ว่าเอาคนจนขึ้นมาพ้นจากความยากจน แต่คนชั้นกลางเราจะตกชั้นด้วย ถ้าหากว่าเราไม่คิดล่วงหน้า ถึงเวลาแล้ว คิดล่วงหน้า ตามให้ทันโลก