ไม่พบผลการค้นหา
"ศักดา นพสิทธิ์" ชี้หลังชัดการเลือกตั้ง ภาคธุรกิจเริ่มตื่นตัว เรียกร้อง สนช.ตรวจสอบการทำงานใช้งบประมาณของรัฐบาล มากกว่าออกกฎหมาย

นายศักดา นพสิทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังมีการประกาศกฎหมายเกี่ยวการเลือกตั้งแล้ว มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น จากกรณีนี้ส่งผลให้การประกาศขยายตัวทางธุรกิจภาคเอกชนเริ่มมีความตื่นตัวสูงขึ้น รวมถึงตลาดหุ้นและตลาดการลงทุน แสดงการตอบรับการเลือกตั้งด้วย นี่จึงเป็นสัญญาณแจ้งเตือนให้รัฐบาลควรรับฟังว่า การเลือกตั้งเป็นรูปแบบและแนวทางการนำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าและเติบโตตามหลักสากล

นายศักดา กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศ ได้ใช้เงินงบประมาณที่มาจากภาษีของพี่น้องประชาชน เป็นจำนวน 11,324,000,000 บาท ซึ่งยังไม่รวมเงินงบประมาณที่เพิ่งผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อเร็วๆ นี้ เงินงบประมาณจำนวนมากมหาศาลและสูงเป็นประวัติการณ์นี้ มีความคาดหวังว่าจะทำให้ประเทศมีสาธารณูปโภค ครบถ้วนทุกหนทุกแห่ง การขยายตัวทางเศรษฐกิจประเทศโดยรวมและทั่วถึงยิ่งขึ้น ประชาชนจะมีความสุข แต่ตรงกันข้ามทุกวันนี้

"ประเทศไทยยังไม่มีสิ่งที่ดีใหม่ที่มาจากการบริการของรัฐบาลนี้ ภาคอุตสาหกรรมไม่ขยายตัว อสังหาริมทรัพย์ไม่เติบโต ไม่มีการทุน รวมถึงการค้าขายของประชาชนมีแต่ความซบเซา ได้ยินคำถามจากพี่น้องประชาชนบ่อยครั้งว่า ที่รัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจขยายตัวสูงขึ้น แต่ทำไม่เงินในกระเป๋าไม่มี และจากรายงานการใช้งบประมาณของรัฐบาลนี้ พบว่ามีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ทั้งในงบประมาณปกติ และนอกงบประมาณ ตัวเลขหนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้น สถาบันการเงินของรัฐมีภาระหนี้ ความเสียหายจากโครงการภาครัฐ รวมถึงรัฐวิสาหกิจไม่สามารถหารายได้เข้ารัฐได้เพียงพอ ทั้งการจัดเก็บภาษีของรัฐก็น้อยกว่าการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ก็มีแต่รายการการใช้จ่ายงบประมาณ แทบจะไม่มีแผนงานในการหารายได้เลย และข้อสังเกตุคือ รัฐบาลนี้ใช้เงินงบประมาณ นับแสนล้านกับโครงการไทยนิยมยั่งยืน โดยไม่คำนึงถือ ระเบียบวินัยการเงินการคลัง ที่กฏหมายกำหนด จึงมีคำถามว่า การใช้เงินดังกล่าว เป็นการใช้เงิน เพื่อซื้อเสียงล่วงหน้าหรือไม่" นายศักดิ์ดา กล่าว

นายศักดา กล่าวว่า ฝ่ายนิติบัญญัติ ขณะนี้ไม่ควรทำหน้าที่ออกหมายเพื่อให้มากฉบับ มาบังคับใช้ประชาชนอย่างเดียว ควรให้ความสำคัญกับหน้าที่และบทบาทการตรวจสอบการบริหารราชการของรัฐบาลด้วย ซึ่งมีหลายกรณีที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา บริหารราชการและใช้งบประมาณ อย่างมีข้อสงสัย เช่น ความจำเป็นในการซื้อเรือดำน้ำ แต่ไม่มีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนใด ตรวจสอบและซักถามแทนประชาชน